PLANBอัพรายได้แตะ8พันล. งบใช้สื่อหนุน-มาร์จิ้นดีด31%
PLANB อัพเป้ารายได้ปี 2566 ใหม่กว่า 7.7-8 พันล้านบาท รักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นทั้งปีที่ 28-31% หลังการท่องเที่ยวฟื้นตัวดี ลูกค้ายังอัดฉีดงบใช้สื่อ OOH ต่อเนื่อง หนุนเดือนกรกฎาคม อัตราการใช้พื้นที่สื่อยืนเหนือ 68% มองประเด็นการเมืองยังไม่ส่งสัญญาเชิงลบต่อเม็ดเงินสื่อ โบรกปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้ 8.8% เป็น 876 ล้านบาท แนะนำ "ซื้อ" เคาะราคา 10.20 บาท
นายธนพร เตชวิวรรธน์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปี 2566 ใหม่เป็น 7,700-8,00 ล้านบาท จากเดิมที่วางเป้าหมายไว้ที่ระดับ 7,200-7,500 ล้านบาท ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวประเทศไทย ที่ปัจจุบันยังคงเห็นแนวโน้มการใช้เม็ดเงินสื่อโฆษณาจากทางลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่ม Luxury Brands ที่ปีนี้วางเป้าหมายรับรู้รายได้ไว้ที่ 200 ล้านบาท
*สื่อOOHบูม
แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยยังต้องเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนทางการเมืองและยังไม่สามารถหาข้อยุติที่ชัดเจนได้ แต่อัตราการใช้สื่อ (Utilization Rate) ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 อยู่ที่ระดับเฉลี่ยกว่า 68% ซึ่งอยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี ในขณะที่เดือนสิงหาคมและกันยายน ยังคงต้องให้การจับตาดูสถานการณ์ในประเทศอย่างใกล้ชิดต่อไป และวางกลยุทธ์ให้พร้อมรับมือต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่อย่างไรก็ดี ปัจจุบันยังคงไม่เห็นสัญญาเชิงลบต่อการใช้เม็ดเงินลงทุนในสื่อโฆษณา
นอกจากนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายการรับรู้รายได้จาก AQUA ในปี 2566 ไว้ที่ 950 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ทำได้แล้วที่ราว 538 ล้านบาท และการรับรู้รายได้จากการบริหารสิทธิ์ถ่ายทอดเอเชี่ยนเกมส์ ในปีนี้ไว้ที่ระดับ 250 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 2/2566 มีการรับรู้มาแล้วประมาณ 54 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้ได้มากขึ้นในไตรมาส 3/2566 เพราะรับรู้ได้เต็มไตรมาส ขณะเดียวกันบริษัทได้มีการปรับเป้าหมายการรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นทั้งปีนี้ใหม่ที่ 28-31% จากเดิม 25-30%
ส่วนธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม (Engagement Marketing) คาดว่าจะรับรู้รายได้จากกีฬามวย RWS ทั้งปี 2566 ไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท จากในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ที่รับรู้รายได้จาก RWS แล้ว 100 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งหลังปี 2566 คาดว่าจะมีการรับรู้รายได้จาก RWS ที่มากขึ้น เนื่องจากมีอีเวนต์แม็ทชิงคู่สำคัญและแม็ทชิงแชมป์ ประกอบกับจากการปรับขึ้นค่าที่นั่งชมที่เพิ่มขึ้น รวมถึงอัตราการเข้าชมทั้งชาวไทยและต่างชาติที่มากขึ้น คาดว่าจะเข้ามาช่วยสนับสนุนการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังปีนี้อีกด้วย
โบรกอัพกำไร
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า กำไรสุทธิไตรมาส 2/2566 ของ PLANB ออกมาน่าประทับใจมากที่ 227 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และเติบโต 72% จากไตรมาสก่อน ดีกว่าประมาณการของทางฝ่ายและของตลาด 11% เนื่องจากรายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจ OOH และอัตรากำไรขั้นต้น โดย Utilization Rate เพิ่มขึ้นเป็น 72.1% (สูงกว่าประมาณการของเราที่ 70% For Our Estimate) จาก 64.8% ในไตรมาส 1/2566 และ 57.3% ในไตรมาส 2/2565
นอกจากนี้ PLANB ยังได้อานิสงส์จาก Operational Leverage ที่สูงในช่วงที่รายได้อยู่ในขาขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 29.8% ในไตรมาส 2/2566 จาก 28.8% ในไตรมาส 2/2565 และ 25% ในไตรมาส 1/2566 ทั้งนี้กำไรสุทธิในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 357 ล้านบาท คิดเป็น 44% ของประมาณการกำไรเต็มปีของทางฝ่าย ทั้งนี้ทางฝ่ายมองบวกมากขึ้นกับแนวโน้มของ PLANB ในช่วง 6 เดือนหลังปี 2566 และปี 2567 ถึงแม้จะเป็นช่วงที่ยากลำบากในไตรมาส 2/2566
แต่ PLANB ยังบริหารให้ UR เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 72% ได้ ซึ่งใกล้เคียงกับระดับก่อนโควิดระบาด ในขณะเดียวกันทางฝ่ายคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 3/2566 จะได้แรงหนุนจากการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ในขณะที่ไตรมาส 4/2566 จะเป็นช่วง High Season มองว่าสภาวะทางการเมืองในปีหน้าน่าจะดีกว่าในปีนี้ ซึ่งจะทำให้ PLANB ขายสินค้าได้มากขึ้น ดังนั้นทางฝ่ายจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้ขึ้นอีก 8.8% เป็น 876 ล้านบาท และปี 2567 ขึ้นอีก 26% เพื่อสะท้อนถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจ OOH ปรับเพิ่มคำแนะนำจากถือเป็น "ซื้อ" และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 10.20 บาท จากเดิมที่ 8 บาท