รีเซต

TTAย้ำรายได้2.9หมื่นล. ธุรกิจบริการ-อาหารหนุน

TTAย้ำรายได้2.9หมื่นล. ธุรกิจบริการ-อาหารหนุน
ทันหุ้น
7 มีนาคม 2566 ( 16:59 )
83

TTAตั้งเป้ารักษาระดับรายได้รวมเท่าปีก่อนที่ 2.9 หมื่นล้านบาท หนุนจากธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง, ธุรกิจอาหาร และธุรกิจปุ๋ย ขณะที่ยอมรับค่าระวางเรือขาลงกดรายได้ธุรกิจขนส่งทางเรือ มั่นใจบริหารจัดการต้นทุนเฉลี่ยในระดับต่ำหนุนศักยภาพทำกำไร

 

นายคทารัฐ สุขแสวง ผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทคาดการณ์รายได้รวมทั้งปี 2566 มีแนวโน้มใกล้เคียงกับรายได้รวมทั้งปี 2565 ที่ราว 2.9 หมื่นล้านบาท กดดันจากรายได้กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือที่มีแนวโน้มอ่อนแอตามอัตราค่าระวางเรือที่ปรับตัวลดลง โดยปัจจุบันบริษัทมีกองเรือทั้งสิ้น 24 ลำแบ่งเป็นเรือซุปเปอร์แม็กซ์ 22 ลำ และเรืออัตราแม็กซ์ 2 ลำ พร้อมกันนี้ยังมีความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานเฉลี่ยอยู่ที่ราว 4-8 พันดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อลำต่อวันหนุนศักยภาพการทำกำไรได้อย่างมีนัยสำคัญ

 

*ธุรกิจบริการ-อาหารดัน

สำหรับกลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง บริษัทได้ขยายงานบริการจากงานวิศวกรรมใต้ทะเล เข้าสู่งานวางสายเคเบิ้ลใต้ทะเล รวมถึงงานติดตั้ง และรื้อถอน ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจสามารถพลิกกลับมาทำกำไรได้ ณ สิ้นปี 2565 ที่ผ่านมาและยังคงมีงานในมือ (Baaklog) ราว 321 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปี 2566 ประมาณ 202 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกันนี้บริษัทยังคงมองหางานใหม้เข้ามาเติม Backlogในมืออย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มการลงทุนอื่นยังคงมีศักยภาพสร้างรายได้

 

“ค่าระวางเรือยังมีแนวโน้มปรับตัวลง แต่การที่องค์กรทางทะเลระหว่างประเทศ กำหนดความเร็วการเดินเรือทะเลเพื่อควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงปริมาณการต่อเรือใหม่ที่จะเข้าสู่อุตสาหกรรมฯ จะเป็นปัจจัยช่วยชะลอการอ่อนตัวลงของค่ระวางเรือได้อย่างมีนัยสำคัญ สำหรับธุรกิจบริการนอกชายฝั่งนั้นรัฐบาลในหลายประเทศทั้งทวีปแอฟริกาใต้, และภูมิภาคตะวันออกกลางยังคงเพิ่มงบประมาณการขุดเจาะน้ำมันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นเป้าหมายให้บริษัทเข้าไปทำงาน”

 

*เคมีภัณฑ์เติบโต

สำหรับกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตรซึ่งดำเนินงานโดยบริษัท พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMTA นั้นคาดว่าปี 2566 รายได้ และกำไรจะเติบโตต่อเนื่องได้อย่างมีนัยสำคัญ หนุนจากการที่จีนเปิดประเทศ และกลับมาส่งออกวัตถุดิบหลักสำหรับผลิตปุ๋ยอีกครั้ง ส่งผลให้ต้นทุนของบริษัทปรับตัวลดลงได้อย่างมีนัยสำคัญ จนสามารถปรับลดราคาขายลงใกล้เคียงราคาจำหน่ายปกติ โดยปัจจุบัน PMTA มีส่วนแบ่งทางการตลาดปุ๋ยเกรดพรีเมี่ยมในประเทศเวียดนามราว 19% อีกทั้งยังสามารถส่งออกปุ๋ยไปจำหน่ายยังประเทศฟิลิปปินส์ได้อีกด้วย

 

พร้อมกันนี้หลังจากที่กลุ่มบริษัทได้เข้าซื้อคลังสินค้าและที่ดินจาก Yara Vietnam Co., Ltd. ประเทศเวียดนาม ส่งผลให้ PMTA มีพื้นที่ในการบริหารทั้งสิ้น 85,000 ตารางเมตร รวมถึงเตรียมลงทุนก่อสร้างคลังสินค้าเฟส 2 บนที่ดินดังกล่าว ซึ่งจะเพิ่มรายได้ และสามารถลดต้นทุนการขนส่ง-ระบบจัดเก็บสินค้าของบริษัทลงได้อย่างมีนัยสำคัญ

 

“เมื่อจีนกลับมาส่งออกวัตถุดิบหลักในการผลิตปุ๋ย ต้นทุนก็ปรับตัวลดลงจึงสามารถปรับลดราคาขายลงได้ แต่อย่างไรก็ตามงวดไตรมาส 1 ของทุกปีถือเป็นช่วงโลว์ซีซั่น จึงจะยังไม่เห็นคำสั่งซื้อทีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่คาดว่ายอดขายจะเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ตามฤดูกาลเพาะปลูก”

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง