เปิดมุมมอง 3 โบรกส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้

ทันหุ้น - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) ระบุ SET Index  ปิดที่ระดับ 1582.96 จุด (+14.38 จุด) ดัชนีทะลุแนวต้าน 1570 จุดขึ้นมาได้ ทำให้ Upside ถูกเปิดต่อ ดึงสัญญาณบวกในภาพระยะกลางเข้ามา แต่ระยะสั้นต้องระมัดระวังการย่อตัว เนื่องจาก Stochastic เข้าสู่ภาวะ Oversold

กลยุทธ์การลงทุน

มีหุ้น  ถือต่อ จนกว่าจะหลุด 1547 จุด

ไม่มีหุ้น  รอตั้งซื้อที่บริเวณแนวรับ 1570 จุด

แนวรับ 1570/1560  แนวต้าน 1587/1596

**บล.เคทีบีเอส คาดดัชนีฯ มีโอกาสเดินหน้าต่อ แต่อาจลดความร้อนแรงก่อนเข้าวันหยุด ตลาดต่างประเทศรอดูแผนขึ้นภาษีของสหรัฐฯ และตัวเลข PCE คืนนี้ ด้านไทย แผนกระจายวัคซีน หนุนความเขื่อมั่นให้นักลงทุน กลยุทธ์ การลงทุนช่วงนี้ ยังสามารถเก็งกำไรได้ รวมถึงทยอยซื้อหุ้นอิงตลาดรับการขึ้นทดสอบ 1600 จุด

วันนี้ นักลงทุนในตลาดต่างประเทศ คาดว่าจะรอดูการแถลงงบประมาณปี 2022 ของสหรัฐฯ วงเงิน $6 ล้านล้านเหรียญ โดยประธานาธิบดี Biden ที่อาจจะมีการพูดถึงแผนภาษี Capital Gain Tax ด้วย นอกจากนี้ สหรัฐฯจะมีการรายงานตัวเลขดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคล (PCE) ที่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 2.9% YoY หากตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นมาก จะบ่งชี้ถึงสัญญาณเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม ทาง Fed และ รัฐมนตรีคลัง (นางเยลเลน) แสดงความเห็นว่า ระดับเงินเฟ้อในเวลานี้ มองว่าเวลานี้ตลาดลดความกังวลเรื่องเงินเฟ้อลงไปมาก สังเกตจากแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงที่ลดลงและ Bond Yield 10 ปี ของสหรัฐฯ ที่ทรงตัวอยู่แถวๆ 1.60% 

สถานการณ์ Covid-19 ของไทย  ซึ่งมีผลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด กำลังดีขึ้นตามลำดับ การกระจายการฉีดด้วยระบบใหม่ บวกกับการติดเชื้อที่เริ่มอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ (วันก่อน +3,323 ราย) ตัวเลขอาจสูงแต่ที่เพิ่มขึ้นหลักๆ มาจากเรือนจำและแคมป์คนงาน ไม่ได้กระจายตัวเหมือนช่วงต้นๆ 

ตัวแปรที่ติดตาม ในวันนี้  ราคาน้ำมันดิบ Brent ขยับขึ้นมาแตะ $69 เหรียญ อีกครั้ง บวกต่อหุ้นน้ำมัน (PTTEP, TOP) จาก demand ที่ฟื้นตัว แต่ต้องรอดูการประชุม OPEC+ ในวันอังคารหน้า(1) ด้วย event สำคัญๆ  สถาบันจุฬาภรณ์แถลงเรื่องการนำเข้าวัคซีนของ Sinopham และ การนำเสนอข้อมูลบริษัทในตลาดต่อนักลงทุน (Op day) วันนี้  MICRO, TVD, WHAUP, HTECH, PTG, AS, JKN

#Strategy

ดัชนีฯ สามารถผ่าน 1570 จุดขึ้นมาได้แล้ว  จากข่าวบวกหลายๆตัว ทำให้มีโอกาสขึ้นทดสอบ 1600 จุด อีกครั้ง โดยเฉพาะถ้าผ่านวันนี้ไปได้ เพราะคืนนี้(28) สหรัฐฯจะมีการแถลงตัวเลข PCE  กลยุทธ์ การลงทุนช่วงนี้ ยังสามารถเก็งกำไรได้ ทั้งหุ้นที่แนวโน้มดี(ดู Op day ประกอบไปแต่ละวัน) และหุ้นที่อิงทิศทางตลาด ที่น่าจะมี gap ในการเข้าซื้อและไปขายที่ดัชนีฯเข้าใกล้ 1600 จุด พอร์ตหุ้นวันนี้เรานำหุ้น NER ออก และนำหุ้น SICT* เข้ามาแทน หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย SICT*(15%), TIP*(20%), RBF(10%),PSL(15%), CK(15%), MINT(10%), CHG(10%)

#Strategy top picks

SICT*: (เป้าเชิงกลยุทธ์ 4.50 บาท) “ผู้บริหารมั่นใจรายได้ปี 21 โต 15-20%YoY จาก Backlog ที่ Secure แล้วถึง 80% ถึง 3Q21”

•ผู้บริหารมั่นใจรายได้โตตามแผน ธุรกิจ Animal ID ยังโดดเด่น รอการปลดล็อคกฎหมาย Animal Tag ในโซนลาติน 

•บริหารจัดการวัตถุดิบสำคัญในการผลิตอย่างชิพ/เวเฟอร์ ได้ดีโดยยังรักษาระดับของกำไรขั้นต้น ได้เหนือระดับ 40% ต่อเนื่อง 5 ไตรมาส

•ธุรกิจ NFC กำลังโต, Smart Packaging เป็นตลาดใหญ่ ขยายฐานลูกค้าได้อีกมากถือเป็น New Growth Engine ของรายได้ในอนาคต

Technical : COM7, SIS

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน มองผลตอบแทนพันธบัตรกลับมาปรับเพิ่มขึ้นบวกต่อหุ้น inflation hedging ทั้งนี้ ยังคงเลือกลงทุนอยู่กับกลุ่มที่สามารถรับมือเงินเฟ้อ คืนนี้ประธานาธิปดีไบเดน จะเปิดเผยงบประมาณรายจ่ายสหรัฐฯ 6 ล้านล้านเหรียญฯ ซึ่งจะมีรายละเอียดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ, การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้ง มาตรการช่วยเหลือภาคครัวเรือนสหรัฐฯ เมื่อประกอบกับการขอรับสวัสดิการว่างงานวานนี้ที่ลดลงต่อเนื่อง และการรายงานรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในคืนนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรกลับมาขยับขึ้น ทำให้ฝ่ายมองตลาดจะยังพยายามมองไปยังกลุ่มที่สามารถรับมือกับเงินเฟ้อ (inflation hedging) ระหว่างติดตามการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุม 15-16 มิ.ย. มองภาวะดังกล่าวเป็นบวกกับ 1) หุ้นธนาคารและประกัน KBANK, SCB, BBL, BLA, TIP, THRE, BKI, MTI 2) หุ้นอสังหาริมทรัพย์ SPALI, LH, AP, PSH 3) หุ้นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ AWC, MINT, CPN และเป็นบวกต่อการเก็งกำไรรายตัว

จับตาการประชุมโอเปค 1 มิ.ย. กำหนดมุมมองน้ำมันช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า ตามกำหนดการเดิมโอเปคและชาติพันธมิตรจะทำการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันขึ้นอีก มิ.ย. 350,000 บาร์เรล/วัน และ ก.ค. อีก 441,000 บาร์เรล/วัน อย่างไรก็ตามมีความเป็นไปได้ว่าในการประชุม 1 มิ.ย.นี้อาจมีการปรับแผนการผลิตเพื่อรองรับการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน ที่ปัจจุบันมีแนวโน้มได้รับการผ่อนคลายการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ รวมถึงมีพัฒนาการในการตรวจสอบนิวเคลียร์ที่ดีกับ ซึ่งเรามองผลการประชุมมีแนวโน้มกำหนดมุมมองราคาน้ำมันในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า

BA เสนอยกเลิกสัญญาเช่าระยะยาว และสัญญาที่เกี่ยวข้องกับ SPF ที่ประชุมคณะกรรมการอนุมัติให้บริษัทยกเลิกสัญญาเช่าระยะยาวที่เหลืออีก 15.5 ปี กับสัญญาอื่นที่เกี่ยวข้องที่มีกับทางกองทุนรวมสิทธิ์การเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) เนื่องจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด ทำให้มีภาระผูกพันและความไม่คล่องตัว จึงได้เสนอยกเลิกสัญญา และกำหนดค่าตอบแทนสัญญาที่จะชำระให้แก่กองทุนรวม 18,050 ล้านบาท (19 บาท/หุ้น SPF) เรามองเป็นปัจจัยบวกต่อราคา SPF ขณะที่สำหรับ BA เป็นบวกระยะยาวจากภาระที่จะลดลง แต่ระยะสั้นอาจมีต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามด้วยเงินลงทุนระยะยาวที่มีอยู่ 2.4 หมื่นล้านบาท อาจทำให้ BA สามารถทำรายการได้โดยไม่จำเป็นต้องกู้เงินเพิ่มเติม

กลยุทธ์ยังเน้นเลือกเก็งกำไรรายตัวในธีมที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) กลุ่มพลังงาน ปิโตรฯ PTT, PTTGC, IVL, IRPC 2) อาหารและเกษตร TVO, CPI, TU, CPF 3) ได้ประโยชน์จากเราชนะ TNP และ KK เนื่องจากเป็นร้านค้าธงฟ้า 4) การขายประกันโควิด บวกต่อ THRE, TIP, TQM 5) ปันผลและกองรีทส์ ADVANC, BTSGIF, CPNREIT, AIMIRT, FTREIT, EASTW, WHAUP, TTW, TIP 6) เก็งกำไรกลุ่มดิจิตัลทีวี BEC, WORK, MONO, JKN

ภาพรวมกลยุทธ์ ฟื้นตัวในกรอบ 1,565-1,600 แต่การฟื้นรอบนี้ตลาดจะเพิ่มความระวังและการปรับพอร์ตเลือกหุ้นรับทิศทางผลตอบแทนพันธบัตรและหุ้นรายตัวที่ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อ โดยยังคงคำแนะนำไม่ไล่ราคาในหุ้นที่ปรับขึ้นมาก และเลือกเก็งกำไรเฉพาะในหุ้นที่มีปัจจัยผลักดันชัดเจน 

หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร RATCH*, TTA*, TIP*, AWC*

แนวรับ 1,565 / แนวต้าน : 1,590-1,600 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%