Jurassic World หนุน AWC กลุ่มศูนย์การค้าโต 44.0% กวาดรายได้ Q3/68 เเตะ 5,193 ลบ.

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป [AWC] ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวมแตะ 5,193 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมกำไรสุทธิ 1,148 ล้านบาท ตอกย้ำศักยภาพการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์และการมีพอร์ตอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูงที่สมดุล 

ไตรมาส 3/68 เติบโตอย่างน่าประทับใจด้วย EBITDA 2,509 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% (YoY) และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 0.8% (YoY) สะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีมูลค่าทรัพย์สินถาวรรวม 215,550 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.4% (YoY)

แรงขับเคลื่อนจากสองกลุ่มธุรกิจหลัก ได้เเก่ 

กลุ่มคอมเมอร์เชียล (ศูนย์การค้าและสำนักงาน): โตโดดเด่นด้วย 'Jurassic World'

กลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียลทำรายได้ 2,260 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6% (YoY)

รายได้ของกลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าเติบโตถึง 44.0% (YoY)

แรงหนุนสำคัญ มาจากความสำเร็จของ "Jurassic World: The Experience" ที่ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ซึ่งจำหน่ายบัตรเข้าชมได้มากกว่า 200,000 ใบใน 3 เดือนแรก หนุนให้รายได้ค่าเช่าของเอเชียทีคเพิ่มขึ้น 26.3% และอัตราการเช่าพื้นที่พุ่งแตะ 85% ขณะที่กลุ่มธุรกิจอาคารสำนักงานรายได้โต 14.8% (YoY) จากกลยุทธ์ "The Empire Reimagined" ที่อาคาร 'เอ็มไพร์' ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร

กลุ่มโรงแรมและการบริการ: ลักชัวรีรีสอร์ทดึงดูดลูกค้าคุณภาพ สร้างรายได้ 2,800 ล้านบาท จากทรัพย์สินที่เปิดดำเนินงานปกติ โดย

โรงแรมในกลุ่มรีสอร์ทระดับลักชัวรี ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรระดับโลก ดึงดูดลูกค้าคุณภาพสูง (ยุโรป สหรัฐอเมริกา ตะวันออกกลาง) ทำให้รายได้ค่าห้องพักจากกลุ่มนี้เติบโตสูงถึง 14% (YoY) ในช่วง 9 เดือนแรก โรงแรมใหม่ เช่น มีเลีย พัทยา โฮเต็ล สามารถสร้างกำไรจากการดำเนินงานเป็นบวกได้อย่างรวดเร็วภายใน 2 ไตรมาส พอร์ตโรงแรมยังแข็งแกร่งกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม สะท้อนผ่านดัชนี RGI ในหัวหิน (143), เชียงใหม่ (121) และภูเก็ต (118)

AWC ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์ Sustainable Growth-Led Strategy อย่างต่อเนื่อง ด้วยการแปลงทรัพย์สินที่อยู่ระหว่างพัฒนามาเป็นทรัพย์สินดำเนินงาน (Operating) อาทิ โรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล และการรับรู้ผลการดำเนินงานของทรัพย์สินใหม่อื่น ๆ ส่งผลให้บริษัทมีทรัพย์สินดำเนินงานเพิ่มขึ้นกว่าหมื่นล้านบาท สร้างกระแสเงินสดเพิ่มเติม

นอกจากนี้ AWC ยังมุ่งมั่นพัฒนาโครงการภายใต้แนวคิด 3BETTERs (Better Planet, Better People, Better Prosperity) โดยอาคาร 'เอ็มไพร์' และอาคารอื่น ๆ ของบริษัทได้รับรองมาตรฐาน WELL Core Platinum ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในประเทศถึง 3 โครงการ ตอกย้ำพันธกิจ "Building Better Future for All" พร้อมสนับสนุนบทบาทของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก

AWC เตรียมรับแรงหนุนจากฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงปลายปี โดยมียอดจองห้องพักล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 13% (YoY) ในจุดหมายปลายทางยอดนิยม อาทิ เชียงใหม่ และเกาะสมุย พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ เอเชียทีคฯ ด้วยการเตรียมเปิดเครื่องเล่น SkyFlyers ที่มีความสูงเทียบเท่าตึก 30 ชั้น นำเสนอประสบการณ์เสมือนไดโนเสาร์บินได้พันธุ์ใหม่ของโลก "การูแดปเทอรัส" ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ รวมถึงเตรียมเปิด โรงแรมแฟร์มอนท์ แบงคอก สุขุมวิท และโครงการ ลานนาทีค กาแล เฟส 1 จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน