รีเซต

TTAครึ่งหลังเด่นรับ“ไฮซีซัน” ออเดอร์จ่อ-ลุยเติมงานเพิ่ม

TTAครึ่งหลังเด่นรับ“ไฮซีซัน” ออเดอร์จ่อ-ลุยเติมงานเพิ่ม
ทันหุ้น
16 สิงหาคม 2566 ( 18:23 )
9
TTAครึ่งหลังเด่นรับ“ไฮซีซัน” ออเดอร์จ่อ-ลุยเติมงานเพิ่ม

TTA ชูครึ่งหลังปี 2566 เด่น หลังเข้าไฮซีซันขนส่งสินค้า มองดีมานด์ยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจออฟชอร์แนวโน้มเติบโตดี ลูกค้าตะวันออกกลางป้อนงานใหม่เข้ามืออย่างต่อเนื่อง หนุนแบ็กล็อกหนา 337 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดส่งมอบช่วงที่เหลือปีนี้ 131 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

นายคทารัฐ  สุขแสวง ผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจกลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้าแห้งเทกองในช่วง 6 เดือนหลังปี 2566 คาดว่าจะมีการปรับตัวที่เพิ่มขึ้นกว่าเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกปี หลักๆ เป็นผลมาจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจขนส่งสินค้าแห้งเทกอง ประกอบกับความต้องการใช้งานการขนส่งทางเรือยังคงมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น

 

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าอัตราค่าระวางเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองในอุตสาหกรรมเฉลี่ยในช่วงไตรมาส 3/2566 และ 4/2566 จะอยู่ที่ช่วงระหว่าง 11,000-12,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อวันต่อลำ นับว่าทรงตัวระดับสูงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในสถานการณ์ปกติ และเพิ่มขึ้นจากในช่วงไตรมาส 2/2566 ที่มีอัตราค่าระวางเรืออยู่ที่ช่วงระหว่าง 8,000-8,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อวันต่อลำ ดังนั้น จึงคาดว่าระดับอัตรากำไรขั้นต้น (Margin) ของบริษัทจะมีแนวโน้มทรงตัวในระดับที่ดีได้ต่อไป

 

ปัจจุบันบริษัทมีกองเรือทั้งสิ้น 24 ลำ แบ่งออกเป็นเรือซุปเปอร์แม็กซ์ จำนวน 22 ลำ และเรืออัตราแม็กซ์ จำนวน 2 ลำ อย่างไรก็ดีบริษัทยังมีเงินสดพร้อมลงทุนอยู่ในมืออีกกว่า 11,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการลงทุนทั้งการจัดหาเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองใหม่เข้ามาเติมกองเรือ รวมถึงการลงทุนทั้งที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของบริษัท และธุรกิจอื่นๆ ที่นอกเหนือธุรกิจหลัก เพียงแต่การลงทุนนั้นอาจต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณา และรอจังหวะที่เหมาะสมในการลงทุน

 

ออเดอร์จ่อส่งมอบ

 

นอกจากนี้ จากการที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังมีแนวโน้มทรงตัวระดับสูง จากการบริหารจัดการกำลังการผลิตโดยรวมขององค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และ OPEC พลัส ส่งผลให้ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง, ทวีปแอฟริกา อาทิ ประเทศแองโกลา, สาธารณรัฐโมซัมบิก ฯลฯ ยังคงทุ่มงบประมาณในการขุดเจาะน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสทางกลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง (Offshore) อย่างมีนัยสำคัญ

 

สำหรับกลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่งปัจจุบันมีงานในมือที่รอการทยอยส่งมอบ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 337 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าในช่วงไตรมาส 3/2564 และ 4/2566 จะมีการส่งมอบ Backlog ที่ประมาณ 131 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในช่วงครึ่งหลังปี 2566 บริษัทยังเดินหน้าในการเติมงานใหม่ๆ เข้ามาในมือเพิ่มเติม โดยเฉพาะจากลูกค้ากลุ่มตะวันออกกลาง ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพและมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพในอนาคต

 

ขณะที่กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตรในช่วง 6 เดือนหลังปี 2566 นี้ มองว่าจะมีการขยายตัวที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกปี เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของการเพาะปลูกของประเทศเวียดนาม ทำให้ทั้งเกษตรกร-ร้านค้าต้องเตรียมกักตุนปุ๋ยเพื่อเพิ่มผลผลิตมากขึ้น ส่งอานิสงส์เชิงบวกต่อปริมาณการจำหน่ายปุ๋ยเชิงผสมและปุ๋ยเชิงเดี่ยวที่เพิ่มมากขึ้นของบริษัทอีกด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง