รีเซต

KLINIQ กำไรแกร่ง ลุ้นทำออล์ไทม์ไฮ อัพเป้าใหม่ 34 บาท

KLINIQ กำไรแกร่ง ลุ้นทำออล์ไทม์ไฮ อัพเป้าใหม่ 34 บาท
ทันหุ้น
17 ตุลาคม 2568 ( 01:10 )
1

               บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) ระบุถึงทิศทาง บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ ในกลุ่ม Healthcare โดยมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มของ KLINIQ พร้อมทั้งคงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 34.00 บาท (จากเดิม 33.00 บาท) อิงกับ 2026E PER ที่ 17 เท่า

               ขณะที่ปัจจุบัน KLINIQ ซื้อขายที่ 2026E PER 12.7x ซึ่งมองว่า Valuation น่าสนใจและยังไม่สะท้อนกำไรในปี 2025E-2026E ที่คาดว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ (All Time High)

               DAOL คาดการณ์กำไรสุทธิ 3Q25E ของ KLINIQ อยู่ที่ 97 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม โดยตัวเลขดังกล่าวแสดงการเติบโตอย่างน่าประทับใจที่ +31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และ +8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ)

               ปัจจัยหนุนหลักที่ทำให้กำไรเติบโตอย่างต่อเนื่องมาจาก : 1.รายได้ทำสถิติสูงสุดใหม่(ATH) โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 875 ล้านบาทใน 3Q25E หนุนโดย SSSG (Same-Store Sales Growth) ที่ขยายตัว +8.1%, การขยายสาขา, และยอดขายเงินสด (cash sales) ที่ทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์ L.A.B. X และ L’Clinic ที่เติบโตดีต่อเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของฐานลูกค้าใหม่

               2.GPM ขยายตัว เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) และ 3.การควบคุมค่าใช้จ่าย SG&A เมื่อเทียบกับยอดขาย (SG&A to sales) ลดลง YoY แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายจากการตัดจำหน่าย (write-off) ประมาณ 4 ล้านบาท จากการปิดสาขา The Klinique ที่ One Bangkok และ L.A.B. X ที่เซ็นทรัล พระราม 3

               ณ สิ้นไตรมาส 3/68 KLINIQ มีจำนวนสาขาอยู่ที่ 79 สาขา เพิ่มขึ้นจาก 77 สาขาใน 2Q25 และ 69 สาขาใน 3Q24

            ขณะที่คาดการณ์ว่ากำไรในไตรมาส 4/68 จะเป็นจุดสูงสุดของปี เนื่องจากรายได้จะทำสถิติ All Time High โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่ลูกค้าส่วนใหญ่นิยมทำความสวยความงามก่อนเทศกาลปีใหม่ รวมถึง SSSG ที่ขยายตัว และ GPM ที่ขยายตัว

               นักวิเคราะห์ได้ ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2025E และ 2026E ขึ้น +3% เพื่อสะท้อนรายได้ที่ดีกว่าคาด โดย ปี 2568 คาดการณ์กำไรสุทธิที่ 377 ล้านบาท (+17% YoY) จากการเติบโตในทุกแบรนด์ และการเปิดสาขาทั้งหมด 13 สาขา และปิด 3 สาขา ทำให้สิ้นปี 2568 มีสาขา 82 สาขา (จาก 72 สาขาในปี 2024) ส่วน ปี 2569 คาดการณ์กำไรสุทธิที่ 439 ล้านบาท (+16% YoY)  มองว่ากำไรในปี 2568-2569 ยังมี upside จากรายได้และ GPM ที่อาจสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง