วิกฤตพายุฝนถล่มไทย ถอดบทเรียนรับมือ เตรียมพร้อมลดความสูญเสีย
ช่วงนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ฝนตกหนักและพายุฝนในหลายพื้นที่ ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ดังเช่นเหตุการณ์พายุฝนพัดถล่มตลาดไทยเจริญ จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 4 ราย และความเสียหายต่ออาคารสิ่งปลูกสร้างเป็นวงกว้าง มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นสูงถึง 10 ล้านบาท จากเหตุการณ์นี้มีประเด็นที่น่าสนใจในการถอดบทเรียน เพื่อรับมือและป้องกันภัยพายุฝนในอนาคต ดังนี้
เตรียมพร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือ
ในช่วงที่เกิดพายุฝน ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ อาจเสียหายและถูกตัดขาดชั่วคราว เช่น ไฟฟ้าดับ ทำให้ไม่สามารถใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าและการสื่อสารติดต่อลำบาก ดังนั้นหน่วยงานและประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ควรเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินให้พร้อม เช่น ไฟฉาย วิทยุสื่อสาร แบตสำรอง ชุดปฐมพยาบาล และอาหารน้ำดื่มสำรอง
ระบบแจ้งเตือนภัยต้องมีประสิทธิภาพ
การแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ ต้องทำอย่างรวดเร็ว ทันท่วงที และเข้าถึงประชาชนอย่างทั่วถึง เพื่อให้ผู้คนมีเวลาเตรียมพร้อมรับมือและอพยพไปที่ปลอดภัย ช่วยลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ ประชาชนเองก็ต้องให้ความร่วมมือติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ไม่ตื่นตระหนกกับข่าวลือ และปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานที่เชื่อถือได้
อาคารสิ่งปลูกสร้างต้องแข็งแรง
เหตุการณ์ที่ตลาดไทยเจริญแสดงให้เห็นว่า อาคารและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงจะไม่สามารถต้านทานแรงลมและฝนที่รุนแรงได้ นำไปสู่ความเสียหายครั้งใหญ่ ผู้ประกอบการและเจ้าของอาคารจึงต้องตรวจสอบและซ่อมแซมอาคารให้มั่นคงแข็งแรง โดยเฉพาะจุดเสี่ยงอย่างหลังคาและเสา รวมถึงป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างใกล้เคียง
ความถี่และความรุนแรงของพายุฝนเพิ่มขึ้น
ข้อมูลสถิติจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ระบุว่า ในปี 2567 มีรายงานเหตุพายุฝนเกิดขึ้นใน 40 จังหวัดทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเฉพาะในภาคเหนือและอีสาน เช่น เพชรบูรณ์มีรายงานถึง 17 ครั้ง ส่วนเชียงรายและลำปางมี 13 ครั้ง และ 10 ครั้ง ตามลำดับ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความถี่และความรุนแรงของพายุฝนที่มากขึ้นอย่างน่ากังวล
พายุฝนยังคงเป็นภัยธรรมชาติที่ก่อความเสียหายมหาศาลในแต่ละปี แม้จะไม่สามารถหยุดมันได้ แต่เราสามารถเรียนรู้ ปรับตัว และเตรียมพร้อมรับมือ รวมถึงบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ เพื่อช่วยลดผลกระทบและความสูญเสียให้น้อยที่สุด
ภาพ : ผู้สื่อข่าวพิษณุโลก
เรียบเรียง : ยศไกร รัตรบรรเทิง บรรณาธิการ TNN
อ้างอิง : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย