รีเซต

4 มรสุมที่อนุทินเจอตั้งแต่รับตำแหน่ง นายกฯ เปิดงบปี 70 สู้วิกฤตหลายด้าน

4 มรสุมที่อนุทินเจอตั้งแต่รับตำแหน่ง นายกฯ เปิดงบปี 70 สู้วิกฤตหลายด้าน
TNN ช่อง16
2 ธันวาคม 2568 ( 13:18 )
7

งบประมาณปี 2570 ซึ่งมีวงเงินรวม 3,788,000 ล้านบาท ถูกประกาศอย่างเป็นทางการในงานมอบนโยบายที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2568 แต่สิ่งที่ได้รับความสนใจมากกว่าตัวเลขงบประมาณ คือคำพูดของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่บอกว่าอยากมีนามสกุลหลีกภัย ทว่าเมื่อรับตำแหน่งกลับต้องเจอ “มรสุม” ต่อเนื่องหลายด้าน

สถานการณ์ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่ารัฐบาลกำลังก้าวเข้าสู่ปี 2570 ด้วยแนวรบหลากหลาย และทุกประเด็นจำเป็นต้องใช้งบประมาณเป็นเครื่องมือสำคัญ บทความนี้ชี้ให้เห็นภาพชัดเจนของ 4 มรสุมที่อนุทินเจอ พร้อมไล่เรียงความเชื่อมโยงกับทิศทางการจัดงบปีหน้า

มรสุมที่ 1 วิกฤตเศรษฐกิจและการคลังที่เริ่มตึงตัว

มรสุมแรกคือภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้า ขณะเดียวกันฐานะการคลังมีสัญญาณเตือนชัดเจน รายได้รัฐต่อจีดีพีลดลงต่อเนื่อง ในขณะที่รายจ่ายประจำเพิ่มสูงขึ้น

รัฐบาลต้องจัดงบขาดดุลต่อเนื่อง แต่ตั้งเป้าลดการขาดดุลให้เหลือไม่เกิน 3% ภายในปี 2572 นายกรัฐมนตรีจึงเน้นให้ทุกหน่วยงานเสนอคำขอภายใต้กรอบเข้มงวด ไม่เพิ่มงบเกิน 20% จากปีก่อน และต้องกันเงินส่วนเพิ่มไปสู่การลงทุน

มาตรการควิกบิกวินที่รัฐบาลผลักดันตั้งเป้าปล่อยเม็ดเงินกว่า 100,000 ล้านบาทเข้าสู่ระบบภายในไตรมาสสุดท้าย สะท้อนว่ารัฐต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจแบบทันที ในขณะที่ต้องรักษาวินัยการคลังไปพร้อมกัน

มรสุมที่ 2 ชายแดนไทยกัมพูชากับแรงกดดันความมั่นคง

เดือนพฤศจิกายน 2568 คือช่วงเวลาที่สถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาร้อนแรงที่สุดในรอบหลายปี การปะทะในหลายจุดสร้างแรงกดดันทางการเมืองและการทูต

นายอนุทินประกาศกลางห้องประชุมว่าไทยรักสงบ แต่หากจำเป็นต้องเผชิญหน้า ไม่อาจยอมตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ พร้อมย้ำว่าหากมีการปะทะ ประเทศต้องคว้าชัยชนะเท่านั้น ถ้อยคำดังกล่าวทำให้เห็นว่างบปี 2570 ต้องเตรียมรองรับงานความมั่นคงมากขึ้น ทั้งในเชิงยุทโธปกรณ์ การข่าว และการประสานในพื้นที่

ในอีกด้าน รัฐบาลยังต้องประเมินผลกระทบต่อการลงทุน การท่องเที่ยว และความเชื่อมั่นจากต่างประเทศ ที่อาจสั่นคลอนหากสถานการณ์ยืดเยื้อ



มรสุมที่ 3 อาชญากรรมสแกม ยาเสพติด และความเหลื่อมล้ำทางสังคม

ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์และเครือข่ายสแกมกว่า 200,000 เคสต่อปี กลายเป็นมรสุมสำคัญที่รัฐบาลต้องจัดการควบคู่กับยาเสพติดและการพนันผิดกฎหมาย นายกรัฐมนตรีระบุว่าเครือข่ายเหล่านี้ทำให้ประชาชนจำนวนมากเดือดร้อน และทำให้ระบบกฎหมายต้องปรับวิธีทำงานอย่างหนัก

รัฐบาลประกาศเดินหน้าแผนสร้างระบบข้อมูลแบบดิจิทัลให้หน่วยงานรัฐทำงานเชื่อมกันได้จริง เพิ่มความสามารถในการตรวจจับการไหลของเงิน และยกระดับความปลอดภัยไซเบอร์ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนขนาดใหญ่ในปีงบประมาณใหม่

ขณะเดียวกัน ประเทศไทยยังต้องรับมือโครงสร้างประชากรสูงวัยและความเหลื่อมล้ำเชิงพื้นที่ที่มากขึ้น ทำให้ภาระด้านสวัสดิการและความช่วยเหลือทางสังคมซับซ้อนกว่าที่ผ่านมา

มรสุมที่ 4 ภัยธรรมชาติและความเสี่ยงจากสภาพอากาศสุดขั้ว

เหตุการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ช่วงปลายปี 2568 ทำให้หลายอำเภอเสียหายหนัก บางพื้นที่น้ำท่วมลึกเกิน 1 เมตร และมีประชาชนได้รับผลกระทบหลายแสนคน นายอนุทินลงพื้นที่หลายรอบในช่วงเวลาเพียง 3 สัปดาห์ และชี้ชัดว่าภัยปีนี้รุนแรงกว่าปีก่อนหน้า

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ งบปี 2570 ต้องรองรับงานเยียวยาที่ต้องจัดให้เร็วขึ้น ลดขั้นตอน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานระหว่างหน่วยงาน นอกจากนี้ยังมีแนวคิดให้จัดประชุมและอีเวนต์ในจังหวัดที่เพิ่งผ่านน้ำท่วมเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูรายได้ชุมชน

ในระยะยาว รัฐบาลยังคงเดินหน้าเป้าหมายเน็ตซีโรในปี 2593 ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนในระบบพลังงานใหม่ คมนาคมทางเลือก และระบบเตือนภัยสมัยใหม่เพื่อรองรับสภาพอากาศสุดขั้วที่เกิดถี่ขึ้นทุกปี

4 มรสุมที่อนุทินเจอ และบททดสอบงบปี 2570

เมื่อนำทุกประเด็นมาประกอบกัน งบปี 2570 กลายเป็นงบประมาณที่ต้องทำงานหลายบทบาทในปีเดียว ทั้งประคองเศรษฐกิจ รับมือความมั่นคงชายแดน ปรับระบบสังคมให้ทันภัยอาชญากรรมใหม่ และฟื้นฟูพื้นที่จากภัยธรรมชาติ

รัฐบาลต้องรักษาสัดส่วนหนี้สาธารณะให้ไม่เกิน 70% ของจีดีพี และลดการขาดดุลให้เหลือ 3% ภายในปี 2572 ในขณะที่ประชาชนต้องการบทบาทรัฐที่ดีกว่าเดิมในการแก้ปัญหาเร่งด่วน

ปี 2570 จึงเป็นปีที่นายกรัฐมนตรีต้องใช้ทรัพยากรจำกัดในการจัดการมรสุมทั้งสี่ด้านอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง