สรุปสัปดาห์วิปโยค เสียชีวิตเกินพันศพ "หาดใหญ่-ทั่วเอเชีย" จากน้ำท่วม-พายุ-ดินถล่ม

สัปดาห์ที่แล้ว ฝนที่ตกหนัก ไม่ได้เกิดเพียงแค่ที่ประเทศไทยเท่านั้น แต่รวมถึงอินโดนีเซีย มาเลเซีย และมีพายุซัดถล่มศรีลังกาด้วย  

ภาคใต้ของไทยถือว่าค่อนข้างหนัก เป็นมหาอุทกภัยร้ายแรงในรอบทศวรรษ ผู้เสียชีวิตภาคใต้ราว 180 คน จังหวัดสงขลาถือว่าหนักที่สุด ผู้เสียชีวิต 140 ราย และที่หาดใหญ่นั้น การฟื้นฟูบ้านเมืองยังถือว่าเป็นไปอย่างยากลำบาก 

แต่ที่สื่อทั่วโลกจับตา คือ อินโดนีเซีย เพราะมีผู้เสียชีวิตมากกว่าไทยหลายเท่า อยู่ที่อย่างน้อย 593 คน จากพายุไซโคลนเซนญาร์ที่พัดถล่มเกาะสุมาตรา  

ยอดผู้เสียชีวิตยังมีแนวโน้มเพิ่มสูง เพราะมีอีกเกือบ 470 คนที่สูญหาย ถือว่าเป็นยอดเสียชีวิตจากภัยธรรมชาติ รุนแรงที่สุดนับแต่แผ่นดินไหวและสึนามิปี 2018

สถานการณ์อินโดนีเซีย ถือว่ารุนแรง ทีมกู้ภัยเข้าถึงผู้ประสบภัยได้อย่างยากลำบาก โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าฝนที่ห่างไกล ทำให้ตอนนี้ ยังมีประชาชนจำนวนมากติดอยู่กลางน้ำท่วมสูง 

เมื่อความช่วยเหลือเข้าถึงไม่ทันเวลา ประชาชนถูกบีบให้ต้องกลายเป็นโจรขโมย ไปลักทรัพย์ขโมยของ โดยเฉพาะอาหารและน้ำเพื่อประทับชีพ

ศรีลังกา เป็นอีกประเทศที่เผชิญอุทกภัยรุนแรงจากพายุไซโคลนพัดถล่ม ทำให้เกิดโคลนถล่มและน้ำท่วมสูง เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 390 คน และประชาชนกว่า 1.1 ล้านคน ได้รับผลกระทบ 

บ้านเรือนกว่า 25,000 หลังถูกทำลาย และคนนับแสนต้องอาศัยอยู่ที่ศูนย์ผู้ประสบภัย

และยังมีแนวโน้มที่ผู้เสียชีวิตจะพุ่งสูง เพราะมีผู้สูญหายมากกว่า 352 คน 

มาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านทางใต้ของไทย แม้ผู้เสียชีวิตจะอยู่ที่ 2 คน แต่ประชาชนกว่า 34,000 คนต้องอพยพ หนีอิทธิพลพายุเซนญาร์ และประชาชนไม่น้อยติดค้างอยู่ในบ้านตนเอง จากน้ำท่วมสูง 

แล้วไม่เพียงแค่มาเลเซีย แต่เวียดนามเองก็เจอน้ำท่วมรุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนเช่นกัน  เช่นเดียวกับฟิลิปปินส์ ที่ช่วงเดือนพฤศจิกายน เจอไต้ฝุ่น 2 ลูก ภายในสัปดาห์เดียว ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน และประชาชนกว่า 1.4 ล้านคนต้องอพยพ

สิ่งที่เกิดขึ้นในชาติเอเชีย โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทย ยิ่งสะท้อนถึงผลกระทบจากปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง และชาติอาเซียน รวมถึงไทย เป็นพื้นที่ที่สุ่มเสี่ยงต่อผลกระทบโลกร้อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้