PSL ร่วงแรง -5.03% แตะ 6.60 บาท (-0.35 บาท)

#ทันหุ้น #SET #PSL ร่วงแรง -5.03% แตะ 6.60 บาท (-0.35 บาท) บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ “ขาย” ราคาเป้าหมาย 7.10 บาท 

บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 (3Q68) โดยสรุป กำไรดีกว่าคาด 12% จากการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าที่ประมาณการไว้

บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2568 จำนวน 252 ล้านบาท หากไม่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX loss) จะมีกำไรปกติ 264 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,272.5% จากไตรมาสก่อน (q-q) แต่ลดลง 10.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (y-y) ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ 12%

ในไตรมาส 3 ปี 2568 ค่าเฉลี่ยของดัชนี BSI อยู่ที่ 1,352 จุด เพิ่มขึ้น 40.5% q-q ขณะที่ดัชนี BHSI อยู่ที่ 724 จุด เพิ่มขึ้น 23.1% q-q ตามปัจจัยฤดูกาลการขนส่งสินค้าเทกองที่คึกคักขึ้น

PSL ยังคงมีกองเรือจำนวน 40 ลำ เท่ากับไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยจากการเดินเรืออยู่ที่ 13,368 ดอลลาร์สหรัฐต่อลำต่อวัน เพิ่มขึ้น 31.9% q-q บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการเดินเรือได้ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน ส่งผลให้ EBITDA เพิ่มขึ้น 46.5% q-q และมี EBITDA Margin อยู่ที่ 55.8% ดีขึ้นจาก 46.4% ในไตรมาส 2/2568

เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2567 กำไรปกติยังคงลดลง 10.0% y-y ซึ่งถือเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 เนื่องจากค่าระวางเรือเทกองทั่วโลกลดลง แม้อุปทานเรือจะเพิ่มขึ้นอย่างจำกัด แต่อุปสงค์ฟื้นตัวช้ากว่าคาดจากปัจจัยสงครามการค้า ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และโดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว

สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทมีกำไรปกติรวมเพียง 145 ล้านบาท ลดลงถึง 86.2% y-y จากผลขาดทุนในไตรมาส 1/2568 ประกอบกับจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้นจาก 37 ลำในช่วง 9 เดือนแรกปี 2567 เป็น 40 ลำในปัจจุบัน ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือเพิ่มขึ้น ในขณะที่รายได้ถูกกระทบจากค่าระวางเรือที่ลดลง 16.9% y-y และค่าเงินบาทที่แข็งค่า

แนวโน้ม (Outlook)

กำไรปกติในช่วง 9 เดือนคิดเป็น 61% ของประมาณการทั้งปี แม้ว่าดัชนีค่าระวางเรือ BSI เฉลี่ยในช่วงไตรมาส 4 (4QTD) จะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,401 จุด เพิ่มขึ้น 3.5% q-q และ 29.3% y-y ขณะที่ดัชนี BHSI อยู่ที่ 872 จุด เพิ่มขึ้น 20.5% q-q และ 29.8% y-y แต่อุตสาหกรรมการเดินเรือกำลังเข้าสู่ช่วง Low Season ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนถึงสิ้นปี บริษัทหลักทรัพย์จึงยังคงประมาณการเดิมไว้ก่อน

แม้ว่ากำไรปกติปี 2568 อาจออกมาดีกว่าที่คาดไว้ แต่ยังคงมุมมองว่าการฟื้นตัวในปี 2569 จะถูกจำกัดจากอุปสงค์ที่เติบโตต่ำ สวนทางกับอุปทานเรือที่เพิ่มขึ้นในอัตราสูงกว่า โดยคงประมาณการกำไรปกติปี 2569 เพิ่มขึ้น 81.1% y-y จากฐานต่ำ พร้อมคงราคาเป้าหมายที่ 7.10 บาท (อิงค่า P/BV ปี 2569 ที่ 0.7 เท่า)