สำรวจตลาดแรงงาน ทำไมต้องจ้างเด็กจบใหม่ เมื่อพนักงาน Out Source ตอบโจทย์องค์กรยุคใหม่

สถานการณ์แรงงานไทย: ความเสี่ยงที่มากขึ้นสำหรับเด็กจบใหม่
ในไตรมาส 1 ของปี 2568 ตลาดแรงงานไทยเผชิญความท้าทายหลายด้าน โดยเฉพาะสำหรับแรงงานจบใหม่ ซึ่งมีความเสี่ยงในการตกงานสูงที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มแรงงานอื่น ๆ
ข้อมูลจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุว่า อัตราการว่างงานของผู้จบการศึกษาระดับอุดมศึกษาอยู่ที่ 1.84% หรือประมาณ 131,600 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตราว่างงานสูงที่สุด
ข้อมูลจาก Hult International Business School ร่วมกับ Workplace Intelligence สะท้อนมุมมองของนายจ้างทั่วโลกที่มีต่อเด็กจบใหม่ โดยพบว่า:
89% ของผู้บริหาร มีแนวโน้มจะเลี่ยงการจ้างเด็กจบใหม่
60% เห็นว่าเด็กจบใหม่ ขาดประสบการณ์จริง
55% ขาดทักษะการทำงานเป็นทีม
51% ขาดทักษะเฉพาะทางที่เหมาะสม
50% ขาดมารยาททางธุรกิจที่เหมาะสม
ผลการวิเคราะห์ของ TDRI จากประกาศรับสมัครงานออนไลน์ในไทย พบว่า มีเพียง 22.3% ของตำแหน่งงานเท่านั้นที่ไม่ระบุว่าต้องการประสบการณ์ แสดงให้เห็นว่านายจ้างไทยก็ให้ความสำคัญกับ "ความพร้อมในการทำงาน" เช่นเดียวกัน
เมื่อพนักงานประจำ ไม่ตอบโจทย์เทรนด์การจ้างงานยุคใหม่
ไม่เพียงแค่สถิติที่ชี้ว่าเด็กจบใหม่กำลังมีความเสี่ยงต่อการตกงาน และ อาจไม่เป็นที่ต้องการของนายจ้าง และ ตลาดแรงงาน TNN สัมภาษณ์ ผู้จัดการฝ่าย HR ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งให้ข้อมูลว่าองค์กรเอกชนในปัจจุบัน มีเทรนด์การจ้างงานที่มุ่งไปที่ผลลัพธ์ประสิทธิภาพสูง โดยมีค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล และ มักจะหลีกเลี่ยงการจ้างพนักงานประจำที่มีค่าใช้จ่ายระยะยาวทั้งเรื่องสวัสดิการ โบนัส การปรับเงินเดือน ไปจนถึงค่าชดเชยจากการเลิกจ้าง
โดยเฉพาะองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) ที่พบว่ากำลังปรับแนวทางการจ้างงานอย่างเห็นได้ชัด โดยพบแนวโน้มการจ้างพนักงานสัญญาจ้างระยะสั้น เฉพาะโปรเจกต์ หรือซับคอนแทรกเตอร์เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังรวมถึงการใช้บริษัท Out Source เพื่อเข้ามาสนับสนุนงานทั่วไป เช่น แอดมิน หรือ IT Helpdesk ที่ถูกมองว่าไม่จำเป็นต้องมีพนักงานประจำอีกต่อไป
“งานธุรการ งานทั่วไป ที่เป็นงานความรับผิดชอบไม่สูง ซึ่งเป็นพื้นที่ของเด็กจบใหม่ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานในช่วงเริ่มต้น ไม่ค่อยจำเป็นในยุคปัจจุบัน เมื่อหลายองค์กรมองว่างานในส่วนนี้สามารถจ้างบริษัท Out Source เข้ามาสนับสนุนได้ หรือ บางงานทีต้องการใช้ทักษะเฉพาะ แต่เป็นโปรเจคต์ระยะสั้นก็ปรับมาใช้ Sub contract แทน ทำให้ในอนาคตคาดว่าพนักงานประจำจะเหลือเพียงในส่วนที่เป็นยุทธศาสตร์ของบริษัท หรือ งานที่มีทักษะวิชาชีพเฉพาะเท่านั้น” ผู้จัดการฝ่าย HR อธิบายถึงแนวโน้มการจ้างงานในปัจจุบัน
ปรับกฎหมายแรงงาน ให้เท่าทันเทรนด์จ้างพนักงาน
ผู้จัดการฝ่าย HR รายนี้มองว่าไม่เพียงความเสี่ยงของเด็กจบใหม่ที่มีความเสี่ยง เพราะเทรนด์การจ้างงานดังกล่าวยังส่งผลต่อพนักงานที่มีประสบการณ์ แต่อาจไม่ตอบโจทย์ขององค์กรด้วย ซึ่งในอนาคตประเทศไทยอาจต้องมีการปรับกฎหมายแรงงานให้สอดคล้องกับการจ้างงานที่หลากหลายรูปแบบมากขึ้น เพราะองค์กรมีแนวโน้มที่จะจ้างพนักงานประจำลดลง
“เมื่อเทียบเคียงกับรูปแบบของบริษัทแม่ในเยอรมัน พบว่าที่นั่นมีการจ้างงานที่หลากหลาย รองรับการจ้างงานหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นฟรีแลนซ์ หรือ Sub contract ก็มีสวัสดิการรองรับตามกฎหมายทั้งประกันสังคม หรือ ประกันสุขภาพ ขณะที่ไทยเองในบางองค์กรมีความพยายามในการลดค่าใช้จ่ายเป็นการจ้างงานแฝง เป็นลักษณะการจ้างแบบผิดกฎหมาย โดยทำเป็นสัญญาจ้างทำของแทน” ผู้จัดการฝ่าย HR ระบุ
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สะท้อนผลการสำรวจผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล ในสหรัฐอเมริกา ของ Hult International Business School ร่วมกับ Workplace Intelligence พบว่า ผู้บริหาร กว่า 89% มีแนวโน้มที่จะเลี่ยงการจ้างงานบัณฑิตจบใหม่ นั่นหมายความว่าเด็กจบใหม่อาจเสี่ยงต่อการตกงานสูง
ดังนั้น แรงงานจบใหม่ควรเตรียมความพร้อมตนเองให้เหมาะสม ทั้งในด้านทักษะที่จำเป็นต่อสายงานและทัศนคติต่อโลกการทำงาน ขณะที่ภาคการศึกษาต้องเร่งปรับการเรียนการสอนให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด รวมถึงส่งเสริมการฝึกงาน เพื่อสร้างประสบการณ์ทำงานจริงให้แก่นักศึกษา
จะเห็นได้ว่าการเข้าสู่ตลาดแรงงานของเด็กจบใหม่ในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องของวุฒิการศึกษาเพียงอย่างเดียวเหมือนในอดีต แต่เป็นเรื่องของ การปรับตัว ทักษะ และทัศนคติ การเข้าใจความคาดหวังของนายจ้างจะช่วยให้สามารถสร้างโอกาสของตนเองได้ดีกว่า
ส่วนภาคการศึกษาต้องเป็นสะพาน ไม่ใช่แค่ผู้สอน ส่วนภาคธุรกิจอาจต้องเปิดใจมากขึ้นในการร่วมสร้าง "คนทำงานจริง" ไม่ใช่แค่คัดเลือกจากประสบการณ์เท่านั้น
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
