เตือนอาการ "ตะคริว" สัญญาณบอกโรค
กิจกรรมที่ทุกคนทำในแต่ละวันอาจทำให้เป็นตะคริวได้โดยไม่รู้ตัวและอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ การเป็นตะคริว คือ อาการหดเกร็งอย่างเฉียบพลันของกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อเกร็งเป็นก้อน ก่อให้เกิดความเจ็บปวด และสามารถเกิดได้ทุกส่วนของร่างกาย ส่วนมากเกิดที่กล้ามเนื้อน่องหรือขา เพราะเป็นกล้ามเนื้อที่ใช้งานบ่อย บางรายเป็นที่แขนหรือมือ จากการใช้งานคอมพิวเตอร์ โดยทั่วไปจะหายได้เองเมื่อพัก แต่หากเป็นตะคริวบ่อยร่วมกับมีอาการอื่น เช่น ชา แสบร้อน พักแล้วไม่หาย ขาซีด ควรพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย
สาเหตุของตะคริว เกิดจาก
-กล้ามเนื้อเกร็ง เกิดอาการเมื่อยล้า อาจเกิดจากการเดินเยอะ
-การอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ เช่น นั่งนาน ยืนบนพื้นแข็งเป็นเวลานาน
-โรคประจำตัว เช่น โรคหลอดเลือดแดงแข็ง โรคพาร์กินสัน โรคอัมพฤกษ์-อัมพาต กรณีนี้แพทย์จะให้ยาป้องกันการเกิดตะคริว
3 ความเชื่อเกี่ยวกับอาการคริ้วว่าเรื่องไหนจริงหรือเท็จ
ความเชื่อที่ 1 เป็นตะคริวบ่อยมีความเสี่ยงหลอดเลือดแดงแข็ง
ความเชื่อนี้ จริงบางส่วน เพราะตะคริวอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ หรือบ่งบอกว่ามีโรคซ่อนอยู่ เช่น หลอดเลือดแดงแข็งตัว ไทรอยด์ หลอดเลือดสมอง ปอด เอ็นประสาทอักเสบ โดยคนไข้จะรู้สึกเย็นและชาร่วมด้วย
ความเชื่อที่ 2 เป็นตะคริวตอนนอน เพราะดื่มน้ำไม่พอ
ความเชื่อนี้ จริงบางส่วน การสูญเสียน้ำเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเป็นตะคริว
ในคนทั่วไปที่ออกกำลังกายหนักหรือเดินมาก ดื่มน้ำไม่เพียงพอก็อาจทำให้เป็นตะคริวได้
ความเชื่อที่ 3 เป็นตะคริวให้กินของเค็ม เพราะร่างกายขาดเกลือแร่
ความเชื่อนี้ ไม่จริง เพราะหลายคนสับสนว่าเกลือแร่กับของเค็มเป็นเรื่องเดียวกัน ทั้งนี้หากร่างกายขาดเกลือแร่จนเกิดตะคริว แนะนำให้ทานแมกนีเซียมเสริม หรือทานอาหารที่มีแคลเซียมเพื่อป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งอาหารที่มีเกลือแร่หรือแมกนีเซียมพบได้ในเต้าหู้ น้ำเต้าหู้ และกล้วย
ส่วนวิธีแก้ การเป็นตะคริว
-ให้ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ หากเป็นที่น่องให้กระดกขาขึ้นค้างเอาไว้สักพัก กล้ามเนื้อที่เกร็งจะค่อย ๆ คลายตัวลง
-นวดเบา ๆ แต่ไม่ควรกด เพราะจะยิ่งเจ็บ
-ประคบเย็นตรงที่มีอาการปวด จะช่วยให้หายเร็วขึ้น โดยทั่วไปเมื่อพักแล้วตะคริวจะหายได้เองใน 5 นาที หรือภายหลังการยืดเหยียด 2-3 นาที
ขอบคุณข้อมูลจาก ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
กราฟิก TNN16