รัฐประหารเมียนมา: เลขาฯ ยูเอ็น "ยอมรับไม่ได้" เหตุผู้ประท้วง 2 คน ถูกยิงในมัณฑะเลย์
เลขาธิการองค์การสหประชาชาติประณามรัฐบาลทหารเมียนมาอีกครั้งหลังจากเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารในเมืองมัณฑะเลย์เมื่อวานนี้ (20 ก.พ.) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย มีรายงานว่าหนึ่งในนั้นเป็นเยาวชนชายซึ่งถูกยิงที่ศีรษะ
สถานการณ์ในเมียนมาตึงเครียดและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ประชาชนยังคงออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐประหารต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 ในหลายเมืองทั่วประเทศ
"ขอประมาณเหตุรุนแรงอันถึงแก่ชีวิตที่เกิดขึ้นในเมียนมา การใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด การข่มขู่และคุกคามผู้ชุมนุมโดยสันติเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้" นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นโพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์เช้าวันนี้ (21 ก.พ.)
- รัฐประหารเมียนมา : ลำดับเหตุุการณ์ ผู้ประท้วงสาวเมียนมาถูกยิงด้วยกระสุนจริง
- รัฐประหารเมียนมา : กองทัพขู่ผู้ชุมนุมอาจถูกคุมขัง 20 ปี
- รัฐประหารเมียนมา เทียบความเหมือนและความต่างกับการยึดอำนาจในไทย
- รัฐประหารเมียนมา: กองทัพแถลงย้ำคำมั่นจัดเลือกตั้งคืนอำนาจประชาชน
"ทุกคนมีสิทธิที่จะชุมนุมโดยสันติ ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยอมรับผลการเลือกตั้งและกลับคืนสู่การปกครองโดยรัฐบาลพลเรือน" นายกูเตอร์เรสเรียกร้อง
เหตุรุนแรงในมัณฑะเลย์ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของเมียนมาเมื่อวานนี้มีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปในอู่ต่อเรือแห่งหนึ่งซึ่งมีคนงานนัดหยุดงานและรวมตัวประท้วงการยึดอำนาจของกองทัพ ผู้ชุมนุมบางรายพยายามสกัดด้วยการขว้างปาสิ่งของใส่ตำรวจ ขณะที่ตำรวจสวนกลับด้วยการยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนจริงเข้าใส่ผู้ชุมนุม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าผู้เสียชีวิตคนหนึ่งเป็นช่างไม้อายุ 36 ปี ถูกยิงที่หน้าอก ส่วนอีกคนหนึ่งมีรายงานว่าเป็นเยาวชนชายอายุต่ำกว่า 18 ปี ถูกยิงที่ศีรษะ นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
จนถึงขณะนี้มีประชาชนที่ออกมาชุมนุมต้านรัฐประหารในเมียนมาแล้วอย่างน้อย 3 ราย โดยรายแรกหญิงสาววัย 20 ปี ชื่อเมียะ ตแวะ ตแวะ ข่าย เธอถูกยิงที่ด้านหลังศีรษะ ขณะร่วมประท้วงต่อต้านรัฐประหารที่กรุงเนปิดอว์ เมื่อวันที่ 9 ก.พ. และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 ก.พ.
สหภาพยุโรปออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรง ขณะที่สถานทูตสหรัฐฯ ในเมียนมาระบุว่าสหรัฐฯ "ไม่สบายใจอย่างยิ่ง" ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายโดมินิก ราบบ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ ทวีตข้อความว่าการยิงประชาชนที่ชุมนุมโดยสงบเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้พร้อมกับบอกว่าสหราชอาณาจักรและพันธมิตรกำลังพิจารณามาตรการขั้นต่อไปเพื่อตอบโต้ "ผู้ที่กระทำย่ำยีประชาธิปไตย"กองทัพเมียนมาก่อการรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนที่นำโดยพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยหรือเอ็นแอลดีของนางออง ซาน ซู จี เมื่อวันที่ 1 ก.พ. โดยอ้างว่าพรรคเอ็นแอลดีชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือน พ.ย. 2563 อย่างถล่มทลายมาได้เพราะมีการทุจริตในการเลือกตั้ง
นางซู จี และบุคคลสำคัญในรัฐบาลหลายคนถูกจับกุมและควบคุมตัวจนถึงขณะนี้ โดยตั้งข้อหานางซู จีว่าครอบครองวิทยุสื่อสารโดยผิดกฎหมายและฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติ
นับจากวันที่ 1 ก.พ. เป็นต้นมา ชาวเมียนมาออกมาชุมนุมต่อต้านการทำรัฐประหารแทบทุกวันในหลายเมือง พวกเขาเรียกร้องให้กองทัพปล่อยตัวนางซู จีและนักการเมืองที่ถูกควบคุมตัวและคืนอำนาจให้รัฐบาลพลเรือนทันที