รัฐประหารเมียนมา : ทหารถูกกล่าวหาว่ายิงสังหาร และจุดไฟเผาฝ่ายต่อต้านรัฐบาล 13 คน
ทหารเมียนมาถูกกล่าวหาว่าสังหารประชาชนที่ต่อต้านการปกครองของรัฐบาลทหาร 13 คน ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งทางภาคกลางของประเทศ โดยมีการพบศพผู้เสียชีวิต 11 คนที่ถูกจุดไฟเผาเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใกล้กับเมืองโมนยวา หลังจากกองกำลังประชาชนที่ต่อต้านรัฐบาลทหารได้วางระเบิดโจมตีขบวนรถทหาร
ชาวบ้านในพื้นที่ระบุว่า กลุ่มอาสาสมัครติดอาวุธในพื้นที่ได้วางระเบิดแสวงเครื่องไว้บนถนน ซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรของทหารเมียนมา
แต่ระเบิดลูกหนึ่งเกิดระเบิดขึ้นมาก่อน ทำให้ชาย 2 คนที่ทำหน้าที่วางระเบิดเสียชีวิต และมีรายงานว่า เมื่อระเบิดลูกที่ 2 ได้ระเบิดขึ้น ทหารได้เข้าจับกุมและยิงชายอีก 2 คนเสียชีวิต
ชาวบ้านกล่าวหาว่า หลังจากนั้น ทหารได้เข้าปิดล้อมหมู่บ้าน แล้วจับกุมชาย 6 คน และวัยรุ่นชายอีก 5 คนที่เข้าไปหลบซ่อนตัว โดยจับชายทั้งมัดมือไพล่หลัง ก่อนที่จะยิงสังหารพวกเขา แล้วจุดไฟเผาร่างผู้เสียชีวิต
นับแต่กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารเมื่อเดือน ก.พ.และใช้กำลังปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างรุนแรง ก็ทำให้กลุ่มอาสาสมัครติดอาวุธตามเมืองและหมู่บ้านต่าง ๆ ก่อเหตุระเบิดและลอบสังหารเจ้าหน้าที่ที่ทำงานให้รัฐบาลทหารเมียนมา
นับเกิดเหตุความไม่สงบนี้ก็มีรายงานว่า กองทัพเมียนมาได้สังหารประชาชนที่ออกมาประท้วงต่อต้านไปอย่างน้อย 1,303 คน และมีผู้ถูกจับกุมกว่า 10,600 คน
จำคุก ออง ซาน ซู จี
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา นางออง ซาน ซู จี อดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่ถูกทหารยึดอำนาจได้ถูกศาลเมียนมาตัดสินจำคุกเป็นเวลา 4 ปี ในคดียุยงปลุกปั่นให้ต่อต้านกองทัพ และละเมิดมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19
ในเวลาต่อมา ศาลได้ลดโทษจำคุกจาก 4 ปี เหลือ 2 ปี
นับแต่กองทัพก่อรัฐประหาร เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ปีนี้ ก็ได้คุมขังนางซู จี เรื่อยมา พร้อมตั้งข้อหาอาญาต่อเธอทั้งสิ้น 11 ข้อหา ทำให้เกิดเสียงประณามถึงความไม่เป็นธรรมอย่างกว้างขวาง
ในการพิจารณาคดีเมื่อวันจันทร์ ศาลยังตัดสินให้จำคุก 4 ปี นายวิน มินต์ อดีตประธานาธิบดีเมียนมา ในข้อหาเดียวกับนางซู จี โดยทั้งคู่ยังไม่ได้ถูกนำตัวส่งเรือนจำ และจะยังคงอยู่ในกรุงเนปิดอว์ต่อไปในระหว่างรอการพิจารณาคดีในข้อหาอื่น ๆ
นางมิเชล บาเชเลต์ ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้ประณาม "การพิจารณาคดีที่น่าอัปยศ" พร้อมชี้ว่า นี่จะยิ่งทำให้ "กระแสต่อต้านการก่อรัฐประหารยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น"
ขณะที่นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักร เรียกร้องให้เมียนมาปล่อยตัวนักโทษการเมืองทั้งหมด และเปิดทางให้ประเทศกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย
ส่วนองค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี้ชี้ว่า นี่เป็นตัวอย่างล่าสุดที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการกวาดล้างฝ่ายต่อต้านให้หมดไป และการสกัดกั้นเสรีภาพในเมียนมา
หลังจากนี้ นางซู จี มีกำหนดจะขึ้นศาลครั้งต่อไปในวันที่ 14 ธ.ค. ในการพิจารณาคดีที่เธอถูกตั้งข้อหาครอบครองวิทยุสื่อสารอย่างผิดกฎหมาย