รีเซต

"ฮอนด้า" เร่งปรับหลังเวียดนามแบนรถจักรยานยนต์น้ำมัน

"ฮอนด้า" เร่งปรับหลังเวียดนามแบนรถจักรยานยนต์น้ำมัน
TNN ช่อง16
29 ตุลาคม 2568 ( 11:54 )
5

หลังรัฐบาลเวียดนามประกาศแนวทางห้ามรถจักรยานยนต์ใช้น้ำมันเข้าสู่ใจกลางกรุงฮานอยตั้งแต่กลางปี 2569 และขยายข้อจำกัดทั่วประเทศในปี 2571 บริษัทผู้ผลิตจากญี่ปุ่น นำโดย ฮอนด้า ได้เริ่มเร่งทบทวนแผนธุรกิจในประเทศอย่างจริงจัง เนื่องจากเวียดนามถือเป็นตลาดสำคัญที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มียอดขายจักรยานยนต์มากกว่า 2.6 ล้านคัน ต่อปี และมีมูลค่าตลาดราว 4.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 

ฮอนด้า ซึ่งมีโรงงาน 4 แห่งในเวียดนาม และสร้างการจ้างงานทางตรงและทางอ้อมหลายแสนตำแหน่ง ถูกจับตามองว่าเป็นบริษัทที่จะได้รับผลกระทบสูงสุดจากนโยบายดังกล่าว โดยเฉพาะเมื่อกว่าร้อยละ 90 ของรถที่จำหน่ายในประเทศยังเป็นรถใช้น้ำมัน แม้บริษัทจะเริ่มทำตลาดรุ่น CUV e: และ ICON e: ซึ่งเป็นจักรยานยนต์ไฟฟ้าแล้ว แต่ยอดจำหน่ายยังอยู่ในระดับจำกัด

ในเชิงกลยุทธ์ ฮอนด้าได้เร่งพูดคุยกับทางการเวียดนามเพื่อเสนอให้มีช่วงเปลี่ยนผ่านอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมปรับสายการผลิตและโครงสร้างซัพพลายเชน ขณะเดียวกัน ผู้จำหน่ายและผู้ผลิตชิ้นส่วนกว่า 2,000 รายทั่วประเทศ ต่างเริ่มวางแผนขยายบริการหลังการขายและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จไฟ เพื่อไม่ให้เสียความต่อเนื่องของธุรกิจ

ในช่วงเดือนสิงหาคม หลังมีประกาศแผนแบนรถใช้น้ำมัน ยอดขายของ ฮอนด้า ในเวียดนามลดลงเกือบร้อยละ 22 เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม ก่อนจะเริ่มฟื้นตัวเล็กน้อยในเดือนกันยายน นักวิเคราะห์ประเมินว่าตลาดอาจยังคงผันผวนต่อเนื่องจนถึงครึ่งแรกของปี 2569 เนื่องจากผู้บริโภคชะลอการซื้อรอความชัดเจนด้านนโยบาย

แม้จะมีแรงกดดันจากภาครัฐ แต่ ฮอนด้า ยังคงมุ่งรักษาฐานธุรกิจในเวียดนามในฐานะศูนย์กลางการผลิตจักรยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาค โดยมองว่าการปรับเข้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า (EV Transition) เป็นโอกาสในการยกระดับเทคโนโลยีและสร้างภาพลักษณ์ความยั่งยืนของแบรนด์ในระยะยาว

ด้านการตลาด บริษัทได้เริ่มใช้กลยุทธ์ Dual Mobility คือการทำตลาดคู่ขนานระหว่างรถน้ำมันและรถไฟฟ้า เพื่อรักษากลุ่มลูกค้าเดิมในต่างจังหวัดซึ่งยังขาดโครงสร้างพื้นฐาน และขยายกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ในเมืองใหญ่ที่เริ่มสนใจเทคโนโลยีสะอาดมากขึ้น ควบคู่กับการสื่อสารภาพลักษณ์ฮอนด้าแห่งอนาคต ผ่านสื่อดิจิทัลและการจัดกิจกรรมทดสอบรถไฟฟ้าในเขตเมือง

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า การเคลื่อนไหวของ ฮอนด้า ครั้งนี้สะท้อนความพยายามของผู้ผลิตญี่ปุ่นในการปรับสมดุลระหว่างแรงกดดันด้านสิ่งแวดล้อมและแรงกดดันด้านการจ้างงาน” ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญของหลายประเทศในเอเชียที่ยังพึ่งพาอุตสาหกรรมยานยนต์แบบดั้งเดิม หากการเปลี่ยนผ่านสามารถเกิดขึ้นอย่างมีแผนและเป็นขั้นตอน เวียดนามอาจกลายเป็นกรณีศึกษาสำคัญของการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจจากน้ำมันสู่พลังงานสะอาดโดยไม่กระทบแรงงานจำนวนมาก

ขณะเดียวกัน ตลาดเริ่มเห็นการแข่งขันจากผู้ผลิตท้องถิ่นอย่าง VinFast ซึ่งยอดขายจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 55 ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องหลังนโยบายแบนเริ่มมีผล โดยได้รับแรงหนุนจากผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการประหยัดพลังงานและภาพลักษณ์ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ภายใต้การแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ฮอนด้า จึงต้องเร่งปรับโครงสร้างธุรกิจในเชิงรุก ทั้งด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ กลยุทธ์ราคา และเครือข่ายการให้บริการ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดที่มีสัดส่วนการครอบครองสูงสุดของโลก และเพื่อเตรียมเข้าสู่ยุคใหม่ของอุตสาหกรรมจักรยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง