รีเซต

ข่าวแตงโมล่าสุด (12 เม.ย.2565) วันนี้มีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง?

ข่าวแตงโมล่าสุด (12 เม.ย.2565) วันนี้มีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง?
TeaC
12 เมษายน 2565 ( 19:32 )
1.6K
ข่าวแตงโมล่าสุด (12 เม.ย.2565) วันนี้มีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง?

ข่าววันนี้ ข่าวแตงโมล่าสุด วันนี้มีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง? ตลอดวันนี้ ‘กระติก’ เตรียมฟ้อง สันธนะ กับ ส.ส.เต้ ขณะที่ 'สันธนะ' แถลงข่าวโต้ 'แม่แตงโม' กับ 'กระติก' เช่นกัน 

 

ข่าวแตงโมล่าสุด (12 เม.ย.2565)

 

‘กระติก’ เตรียมฟ้อง สันธนะ กับ มงคลกิตต์

เพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว โพสต์ภาพและข้อความกรณี น.ส.อิศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ ‘กระติก’ อดีตผจก.แตงโม  1 ใน 5 คนอยู่บนเรือสปีดโบ๊ท พร้อมด้วยทนายความ เข้าพบตำรวจเพื่อรับทราบข้อกล่าา “ทำลายพยานหลักฐาน” ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 เป็นข้อหาที่ 2 หลังถูกแจ้งข้อหาให้การเท็จไปก่อนหน้า 


วันที่ 12 เมษายน 65 หลังจากที่ ‘กระติก’ และทนายความเข้าพบกับทางพนักงานสอบสวน เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ได้ ออกมาให้สัมภาษณ์  โดยทนายความระบุว่า วันนี้เป็นการมารับทราบข้อกล่าวหาที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเกี่ยวกับการทำลายหลักฐาน ซึ่งหลักฐานที่พนักงานสอบสวนอ้างว่าเป็นการทำลายหลักฐานนั้น เป็นการลบรูปภาพในมือถือขณะที่มีการถ่ายในช่วงเวลาก่อนและหลังเกิดเหตุ  ซึ่งเป็นการลบรูปตามปกติของคน ที่หากรูปไหนไม่สวย หรือใช้ไม่ได้ก็จะลบตามปกติ จึงไม่ได้กังวลใจ


ด้าน ‘กระติก’ กล่าวว่า รูปภาพที่พนักงานสอบสวนอ้างว่าตนลบนั้น เป็นรูปที่อยู่ในมือถือของตนเอง  ยอมรับว่ามีการลบรูปจริง แต่เป็นรูปที่เบลอ หรือรูปที่ใช้ไม่ได้ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าไม่ใช่สาระสำคัญของคดี เพราะรูปที่ใช้เป็นพยานหลักฐานทางคดี ส่วนตัวก็ส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เป็นภาพที่ถ่ายทั้งช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุ  มีทั้งภาพถ่ายเดี่ยว และรูปคู่ที่ถ่ายกับแตงโม เป็นรูปที่ถ่ายเล่นกัน ไม่เกี่ยวกับภาพทิ้งขวดไวน์  หรือการเสียชีวิตของแตงโม


ขณะที่ทนายของกระติกระบุว่า  ตอนนี้ทีมกฎหมายกำลังเตรียมรวบรวมหลักฐานเพื่อยื่นฟ้อง นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ต่อศาลโดยตรง ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง กรณีนายสันทนะกล่าวหากระติกเป็นเหมือนคนจัดหารับงานเอนเตอร์เทนให้กับแตงโม รวมถึงนายมงคลกิตต์ สินสุขธรานนท์ ที่กล่าวหาว่าภาพที่ถ่ายเป็นการแต่งรูปขึ้นมา รวมทั้งใครที่ออกมาให้ความเห็นทางสังคม และโซเชียล ที่ทำให้เกิดความเสียหาย


‘กระติก’ กล่าวว่า กรณีของนายสันธนะ และส.สเต้ ที่ออกมาให้ข้อมูล ตนเองค่อนข้างหงุดหงิด ขอยืนยัน ว่า ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นตามที่เขากล่าวหา วันเกิดเหตุ ยืนยันว่าการลงเรือเป็นการไปเที่ยวเล่น ทุกอย่างพูดไปหมดแล้ว ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ ก็อยู่ที่วิจารณญาณแต่ละคนจะตีความไปแบบไหน 


“เราเองจะใช้สิทธิของเรา หากอะไรที่ไม่จริงแล้วเป็นการกล่าวหา ตนเองก็จะฟ้องดำเนินคดี ไม่อยากให้เขาทำแบบนี้กับใคร เพราะมันผิดไปจากเรื่องจริงค่อนข้างมาก แล้วตนเองก็ไม่รู้จักกับเขาเป็นการส่วนตัว แล้วอยู่ดีๆมาพูดเรื่องที่ไม่จริง ตนก็เสียหาย เพื่อนก็เสียหาย ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง ตนจึงรู้สึกไม่โอเค” 


“ไม่เข้าใจนะ ว่าทำแบบนั้นเพื่ออะไร จุดประสงค์เพื่ออะไร ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายมากๆ ตัวเองก็เดือดร้อนโดยสังคมต่อว่า จากสิ่งที่เขากล่าวหา”


เมื่อถามว่าถ้ามีโอกาสเจอหน้ากับนายสันธนะ กระติกกล่าวว่า ตนไม่มีอะไรจะคุย เพราะไม่รู้จักเขา ไม่รู้จะคุยไปเพื่ออะไร เพราะสิ่งที่เขาทำไปไม่รู้ทำไปเพื่ออะไร ไปหาคำตอบจากคนเหล่านี้คงไม่ได้ เอากฎหมายเจรจาดีกว่า ไม่ขอคุย  


ส่วน ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ ที่ระบุว่าภาพถ่ายที่ตนถ่ายคู่กับทางแตงโม ตรงสะพานพระราม 8 เป็นภาพแต่ง ตนมองเป็นเรื่องไร้สาระมากๆ ประเด็นนี้ตนอยากจะบอกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเก็บภาพ ข้อมูลไปหมดแล้ว  ยืนยันไม่ใช่ภาพตัดต่อเพราะตนทำไม่เป็น อีกทั้งมองเป็นเรื่องเสียเวลา


กระติก กล่าวถึงเพื่อนๆบนเรืออีก 4 คน ตอนนี้ก็ยังคงได้คุยกันเรื่อยๆ มีใครโทรมาตนเองก็รับสายตามปกติ ส่วนคนที่ให้กำลังใจก็ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนๆ คนสนิท ส่วนคนอื่นที่ออกมาระบุว่าสนิทกับตน หรืออ้างว่าเป็นเพื่อนตน ในส่วนนั้นตนไม่ขอกล่าวถึง เพราะไม่ได้สนิทกัน 


ส่วนที่ตำรวจจ่อแถลงปิดคดีในวันที่ 18 เมษายนนี้ กระติก บอกว่า รู้สึกดีใจอยากให้ทุกอย่างจบ แล้วไปว่ากันชั้นศาล  เพราะยิ่งนานวัน หากคดียังไม่จบ จะมีประเด็นที่แตกขึ้นมาเรื่อยๆ  ส่วนตัวพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม 


โดยตนเองจะใช้ทนายของตนเองเพียงคนเดียว ไม่ได้ใช้ทนายรวมกับ 4 คนบนเรือ ซึ่งส่วนตัวก็ยังมีการพูดคุยกันตามปกติ เป็นเรื่องส่วนตัวไม่ได้พูดคุยกันในเรื่องของคดี  และเรื่องของนักข่าว เพราะที่ผ่านมาตนเองหวาดกลัวกับการตอบคำถาม  ส่วนสภาพจิตใจตอนนี้ก็ดีขึ้นตามลำดับ เวลาจะเยียวยาทุกสิ่ง ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ

 

ตำรวจภูธรภาค 1 ให้กองคดีดำเนินคดีทุกราย! บุคคลที่เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ

นายสรยุทธ  ยังโพสต์ว่า ถ้าตามนี้ ตำรวจจัดเองเลยครับ … โดยตำรวจภูธรภาค 1 ให้กองคดีดำเนินคดีทุกราย! บุคคลที่เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ และสร้างข้อมูลที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรและบุคคล

 

หลังนางพนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของดาราสาวแตงโม และทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เดินมาพบพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม ที่ สภ.เมืองนนทบุรี

 

ต่อมา  พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รอง ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ ร่วมแถลงความคืบหน้าคดีนักแสดงสาว แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์

 

พล.ต.ต.อุดร กล่าวว่า วันนี้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี มีการเชิญ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ และนางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่แตงโม เพื่อเข้ามาสอบสวนเพิ่มเติม รวมทั้งเชิญ น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก เข้ามาให้การเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน และจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม สำหรับการสอบปากคำทนายเดชาและแม่แตงโมวันนี้ คาดว่าจะสอบเป็นพยานปากสุดท้ายแล้ว คดีคืบหน้าไปกว่า 90% คาดว่าจะสรุปคดีหลังสงกรานต์นี้

 

โดยภายหลังจากนี้ ทางตำรวจภูธรภาค 1 จะให้ฝ่ายกฎหมายทางคดีดำเนินคดีกับบุคคลที่เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ และสร้างข้อมูลที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรและบุคคล นอกจากนี้ จะแจ้งข้อหากระติกเพิ่ม ในข้อหาทำลายหลักฐาน

 

สำหรับประเด็น นายมงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ จะดำเนินคดีหรือไม่นั้น วันนี้ ได้คุยกับกองคดี ประเด็นที่ทำให้เกิดความเสียหายกับองค์กรหรือบุคคล หรือมีเจตนาที่ไม่ดี เกินงาม ทางกองคดีจะทำการสรุปและดำเนินคดีทุกราย

 

ทนายเดชา ลั่น "แม่ไม่สบายใจ"

ด้านทนายเดชา กล่าวว่า ประเด็น สส.เต้ นั้น มีการปรึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่ามีการกระทำใดผิดกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้ ปัจจุบันไม่ค่อยได้คุยกันแล้ว เพราะช่วงหลังเรื่องเริ่มไปไกลมากแล้ว รวมทั้งที่ ส.ส. เต้ เคยออกมาพูดนั้น ทำให้เกิดความสับสนว่าแตงโมตายอย่างไรกันแน่ ถือว่าทำให้คดีเสียหายอยู่ประมาณหนึ่ง ส่วนประเด็นที่สื่อนำคดีมาเสนอจนกลายเป็นละครหรือซีรีส์นั้น ตอนนี้มีการปรึกษากับสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ ทั้งนี้ ขอให้สื่อหยุดทำข่าวคนพวกนี้ เพราะประเด็นออกทะเลไปกันใหญ่แล้ว

 

อย่างไรก็ตาม วันนี้ไม่ได้มาแจ้งข้อกล่าวหาอะไร แต่มาให้การว่าใครกระทำผิดเข้าข่ายหรือไม่ ส่วนกรณีเคยมีกระแสบอกว่าแตงโมรับงานเอนฯ ซึ่งแม่ไม่สบายใจ จึงมาพบพนักงานสอบสวน ให้พิจารณาว่ามีความผิดหรือไม่ โดยตอนนี้มีบุคคลที่ทำให้ไม่สบายใจเบื้องต้นประมาณ 10 ราย และนอกจากประเด็นรับงานเอนฯ ยังมีบุคคลอื่นที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจอีก

 

ทั้งนี้ การพิจารณาความผิด ทางตำรวจจะดูจากเจตนาว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่ หากโพสต์ซ้ำทำบ่อย พูดบ่อย เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้วัดกันได้ถึงความผิด

 

'สันธนะ' แถลงข่าวโต้ 'แม่แตงโม' กับ 'กระติก' 

เมื่อเวลา 15.54 น.ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สภ.เมืองนนทบุรี หลังอดีตนายตำรวจสันติบาล พร้อมทีมงานเดินทางมาถึงสภ.เมืองนนทบุรี ในช่วงเวลา 13.50น.ต่อมาได้แถลงข่าวหลัง รองผบช.ภ.1 และทนายเดชา

 

นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล กล่าวว่าการเดินทางมาวันนี้ไม่ได้มาหาเรื่อง เนื่องจากทราบมาว่า นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของ แตงโม ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ จะมาแจ้งความดำเนินคดีกับตน ฐานหมิ่นประมาทโดยโฆษณา ดังนั้น จึงต้องเดินทางมาที่ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อทราบเรื่องและขอพูดคุยกับคุณแม่แตงโม

 

นายสันธนะ กล่าวด้วยว่าการที่แม่แตงโมแจ้งความตน ก็ไม่ทราบว่าเป็นความคิดของแม่เองหรือไม่ หรือไปฟังใครมา แต่ก็พร้อมที่จะสู้คดีหากแม่มีการแจ้งฟ้อง

 

“ประเด็นแรก ทนายเดชา พูดถึงใช่ผมไหม ให้ระบุชื่อกันได้เลยเรื่องการหิวแสง เรียนทุกท่านแล้ว ทางโซเชียลไม่ใช่ทีมงานผมที่จะทำหรือพูดอะไร ส่วนตัวคำพูดไม่ใช่ คนติดตามแสดงความคิดเห็นกันเอง” นายสันธนะกล่าว

 

ทั้งนี้ ตนได้ขออนุญาตแม่แตงโมไปว่าสะดวกคุยกับตนสัก 5 นาทีหรือไม่ โดยเป็นการคุยกันสองคนไม่มีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องบางประเด็นบางเรื่องที่จะเล่าให้ฟังไม่ใช่นิทาน มีหลักฐานประกอบด้วย ซึ่งตนต้องการจะถามแม่แตงโมในบางประเด็นว่าเคยทราบมาก่อนหรือไม่ และแม่แตงโมได้ตัดสินใจอย่างไร แต่ถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับใดๆ จากแม่แตงโม ซึ่งตนไม่มีความประสงค์จะแจ้งกล่าวหาด้านคดีใดๆ กับทางแม่แตงโม แต่สำหรับทนายเดชา ที่ต้องดำเนินคดี เพราะทนายเดชาได้พูดพาดพิงถึงตนหลายครั้ง ก็แลกกันไป ซึ่งได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานไว้แล้ว

 

นายสันธนะ กล่าวต่ออีกว่า ทราบดีว่ากำลังต่อสู้กับอำนาจลี้ลับที่มองไม่เห็น แต่ก็ยินดีที่จะทำ หนักกว่านี้ก็เคยเจอมาแล้ว ก็จะทำในส่วนของตัวเองมาตลอด ส่วนใครจะเอาไปโยงกับใคร ไม่สนใจ สิ่งที่ทำเพียงเพราะต้องการความจริงความยุติธรรมให้กลับมาคืนสู่สังคม โดยเฉพาะคดีแตงโม

 

นายสันธนะ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ทั้งกรณีที่แม่แตงโมกับกระติก อดีตผู้จัดการของแตงโม จะแจ้งความดำเนินคดีกับตน โดยได้ระบุไว้ในบันทึกประจำวันว่าถ้าหากทั้งสองท่าน คือแม่แตงโม กับกระติกจะมีการแจ้งความตน ตนจะไม่หลบหนี พร้อมต่อสู้คดี และขอปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา

 

สำนวนการสอบสวนล่าสุดจากการแถลงข่าวของ รองผบก.ภ.1 สำนวนใกล้สรุปส่งสำนวน ผู้ต้องหาตามความผิดต่างๆนั้นก็ในส่วนของพนักงานสอบสวน เรื่องพยานหลักฐานที่ตนดำเนินการอยู่นั้น ทางเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนเองก็ยังไม่ได้ดำเนินการให้ตน เพราะถ้าหากเป็นหลักฐานที่สำคัญในคดี แล้วไม่มีการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็ต้องรับผิดชอบด้วย

 

ทั้งนี้ นายสันธนะ กล่าวว่า สิ่งที่กังวลคือวิธีการที่บางคนจะเอาคนมาแจ้งความตน แล้วจะทำให้ตนหยุดในคดีนี้นั้น ขอบอกเลยว่าจะไม่เป็นผลอย่างแน่นอน

 

'สมชาย' ยัน กมธ.สิทธิมนุษยชน เดินหน้า ตามคดี 'แตงโม' เน้นความเป็นธรรม-ไม่บิดเบือน

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เปิดเผยว่า มติของที่ประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา จะติดตาม และสอบหาข้อเท็จจริงต่อการทำคดีของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ดาราสาว ซึ่งเสียชีวิตจากการพลัดตกเรือสปีดโบ๊ทกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ตามกรอบของรัฐธรรมนูญ โดยไม่ก้าวก่ายหรือแทรกแซงการทำคดีของเจ้าหน้าที่ ซึ่งตามข้อบังคับวุฒิสภา กมธ.สามารถทำได้

 

โดยเบื้องต้น กมธ.จะติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าเป็นอย่างไร ทั้งสำนวนของคดี การส่งเรื่องไปอัยการ รวมถึงความเป็นธรรม การอำนวยความยุติธรรมที่ไม่บิดเบือน เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่

 

ส่วนกรณีที่กลุ่มประชาชนคนไทย ยื่นเรื่องให้กมธ.ส่งต่อคดีของน.ส.ภัทรธิดา กมธ.มีมติส่งต่อเรื่องไปยังตำรวจเจ้าของคดี และอัยการนนทบุรี เพื่อให้ตรวจสอบว่าก่อนสรุปสำนวนได้ดำเนินการอย่างรัดกุม รอบคอบ ไม่ตกหล่นหรือไม่ ทั้งนี้ ไม่ใช่ข้อสั่งการของกมธ.ที่มีผลบังคับให้ทำ แต่เป็นเพียงข้อสังเกตเพื่อให้การทำงานรอบคอบ

 

นายสมชาย กล่าวด้วยว่า จากการติดตามเรื่องดังกล่าว ทำให้กมธ.ตรวจสอบพบว่า งานด้านปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด นอกจากต้องตรา ร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติแล้ว ต้องมีร่างกฎหมายสำคัญอีก 1 ฉบับ คือ ร่างพ.ร.บ.การสอบสวนคดีอาญาด้วย และจากการตรวจสอบพบว่า ถูกยกร่าง และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาแล้ว ตามหมายเลข 1788/2561 เมื่อปี 2561 แต่ปัจจุบันไม่ทราบว่าเรื่องค้างอยู่ที่ส่วนราชการใด

 

“ร่างพ.ร.บ.สอบสวนคดีอาญา มีความสำคัญเพราะตามเหตุผล คือ ให้การสอบสวนคดีอาญามีการตรวจสอบถ่วงดุลระหว่างพนักงานสอบสวนกับพนักงานอัยการที่เหมาะสม โดยมีหลักเกณฑ์ต้องเป็นคดีสำคัญ มีโทษ 10 ปีขึ้นไป หรือ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอัยการพิจารณาตามประกาศกำหนด หากร่างกฎหมายดังกล่าวมีผลจะทำให้อัยการมีส่วนร่วมการทำคดีตั้งแต่ต้นน้ำ เพื่อประชาชนมีความเชื่อมั่นใจกระบวนการยุติธรรม และหากคดีของ น.ส.ภัทรธิดามีกระบวนการดังกล่าวจะไม่มีปัญหา” นายสมชายกล่าว

ข้อมูล : มติชน

 

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

 

กดเลย >> community แห่งความบันเทิง

ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง