CRC พบโค้งท้ายยอดขายพุ่ง หว่านปันผลพิเศษ 7.7 พันล.

#CRC #ทันหุ้น - CRC ชี้โค้งสี่ เป็นไฮซีซันขาย แถมปีนี้มาตรการรัฐหนุนทางอ้อม พบ SSS ปลายปีพุ่งชัด เผยแผนลงทุน 3 ปี 5.5 หมื่นล้านบาท โฟกัสเวียดนาม ส่วนดีลขายห้างอิตาลีคาดเงินเข้า 1.3 หมื่นล้านบาท ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ และพร้อมงัดมีปันผลทันที 4,200 ล้านบาท ช่วงธันวาคม และมีรอบ 2 อีก 3,500 ล้านบาท ราวไตรมาส 2 ปีหน้า
นางสาวรังสิรัชต์ พรสุรี Head of Investor Relations & Risk Management บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เปิดเผยว่า แนวโน้มไตรมาส 4/2568 คาดว่าผลประกอบการจะเติบโตดีกว่าไตรมาส 3/2568 เนื่องจากตามปกติไตรมาส 4 เป็นช่วงไฮซีซีน (High Season) การจับจ่ายของผู้บริโภคมักจะมากกว่าปกติอยู่แล้ว
@ปัจจัยบวก
อีกทั้งปีนี้มีปัจจัยบวกทางอ้อมทั้งจาก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐบาล เช่น โครงการคนละครึ่งพลัส ทำให้บรรดาผู้ประกอบการร้านโชวห่วยเข้ามาซื้อของที่ Go Wholesale ไปจำหน่ายต่อได้มากขึ้น อีกทั้งโครงการเที่ยวคนละครึ่งก็เอื้อให้ผู้คนเดินทางและออกนอกบ้านมากขึ้นซึ่งห้างสรรพสินค้าต่างๆ ก็มักมียอดการเข้าใช้บริการเพิ่มขึ้นตาม และมั่นใจว่ายอดขายทั้งปี 2568 จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนได้
สอดคล้องกับตัวเลขยอดขาย Same Store Sales (SSS) ณ เดือนตุลาคมและครึ่งเดือนแรกพฤศจิกายนปีนี้ ปรากฏข้อมูลที่เป็นเชิงบวกมากกว่าไตรมาส 3/2568 ที่ผ่านมาในทุกประเทศอาทิ ไทย, เวียดนาม และอิตาลี
สำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้ภายในไตรมาส 4/2568 กำหนดเปิดไทวัสดุเพิ่ม 2 สาขา และยังมีสาขาที่ปรับปรุงใหม่จนแล้วเสร็จอีก 3 สาขา ขณะที่ธุรกิจ FOOD ในช่วงที่มีผ่านมามีการเปิดสาขา 1 สาขาที่ Central Park ส่วน GO Wholesale ในปีนี้จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 14 สาขา
ด้านต่างประเทศที่เวียดนาม การปรับปรุงสาขา GO! Thang Long คาดว่าจะเปิดได้ในก่อนสิ้นเดือนพฤศจิกายน และ GO! Dong Nai คาดว่าจะเปิดได้ในช่วงเดือนธันวาคมปีนี้
@ขายห้างอิตาลี
ขณะที่ความคืบหน้าขายธุรกิจ Rinascente ในอิตาลี คาดกระบวรการการโอนหุ้นในกิจการดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ และบริษัทจะได้รับเงินจากการทำธุรกรรม 13,000 ล้านบาท หลังหักภาษี
อนึ่ง CRC เป็นผู้ประกอบการที่มีสินค้าและบริการหลากหลาย ครอบคลุมในทุกมิติของ Everyday Lifestyle ประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจหลัก 4 กลุ่ม ได้แก่ Food, Hardline, Fashion และ Property บริการพื้นที่เช่าศูนย์การค้า โครงรายได้หลักของบริษัทกว่า 74% มาจากประเทศไทย ส่วนตลาดต่างประเทศที่สำคัญคือเวียดนามสัดส่วน 20% และอิตาลีสัดส่วน 6%
โดยเซ็กเมนต์ กลุ่ม Fashion ในประเทศไทย ธุรกิจจัดจำหน่ายแบรนด์ไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) มียอดขายเติบโตโดดเด่นที่สุดระดับสองหลัก (Double Digit) ยอดขายจากนักท่องเที่ยวและกลุ่มลูกค้าระดับมีกำลังจ่ายสูง
@แผน 3 ปี
กลยุทธ์การเติบโตในระยะ 3 ปีข้างหน้า ยอดขายรวม (Top Line) ตั้งเป้าการเติบโตโดยรวมอยู่ในกรอบ High Single Digit Growth พร้อมกับมีงบลงทุน (CAPEX) ระหว่างสำหรับ 3 ปีไว้ที่ 50,000 – 55,000 ล้านบาท โดยเน้นเพิ่มงบประมาณลงทุนในประเทศเวียดนามมากกว่าแผนเดิม
ส่วนในไทย มีแผนเปิดสาขาใหม่ในช่วง 74-85 สาขา โดย Go Wholesale มีแผนขยาย 10-12 สาขา และ Mini Supermarket จะขยาย 23-25 สาขาในช่วง 3 ปีนี้
@แจกเงินพิเศษ
และสืบเนื่องจากกระแสเงินสดที่จะมากขึ้นจากการขายธุรกิจที่อิตาลี คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลพิเศษครั้งที่ 1 จำนวน 4,200 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.70 บาทต่อหุ้น โดยจะสามารถจ่ายได้ภายในเดือนธันวาคมนี้
อีกทั้งจะจ่ายเงินปันผลพิเศษครั้งที่ 2 ซึ่งต้องรอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2569 ที่จะจัดราวเมษายนปีหน้า อนุมัติการจ่ายเงินปันผลพิเศษครั้งที่ 2 อีกประมาณ 3,500 ล้านบาท หรือ 0.58 บาทต่อหุ้น พร้อมการจ่ายเงินปันผลประจำปี และประเมินจ่ายเงินปันผลจริงได้ไม่เกินช่วงพฤษภาคม 2569
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
