NKTคาดปี68รายได้โต5% เสริมแกร่งลงทุน3โครงการ

#NKT #ทันหุ้น - NKT เดินแผนขยายการลงทุนต่อเนื่อง ทั้งการก่อสร้าง “โรงพยาบาลนครธน 2” และ “ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุครบวงจร นครธน ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์” พร้อมเพิ่มจำนวนเตียงอีก 95 เตียง รองรับความต้องการบริการสุขภาพที่เพิ่มขึ้น คาดรายได้ปี 2568 และปี 2569 เติบโตเฉลี่ย 5% ต่อปี งวด 9 เดือนทำกำไร 160.6 ล้านบาท
รศ.ญาณเดช ทองสิมา ประธานกรรมการ บริษัท โรงพยาบาลนครธน จำกัด (มหาชน) หรือ NKT เปิดเผยว่า โรงพยาบาลยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนเชิงรุกเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจบริการสุขภาพในระยะยาว โดยมีแผนลงทุนหลัก 3 โครงการสำคัญ ได้แก่ 1.โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลนครธน 2 จำนวน 151 เตียง มีความคืบหน้าแล้วกว่า 98% คาดว่าจะเปิดให้บริการและเริ่มรับรู้รายได้ในเดือนธันวาคม 2568 นี้ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าทั่วไป รวมถึงเตรียมยื่นขอเข้าร่วมระบบ ประกันสังคม ในปี 2570
2.โครงการนครธน ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงแบบองค์รวม ตั้งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลนครธนมีความคืบหน้า 52% คาดเปิดดำเนินการในปี 2568 และ 3.โครงการขยายจำนวนเตียงโรงพยาบาลนครธน (แห่งปัจจุบัน) เพิ่มจำนวน 95 เตียง จากเดิม 150 เตียง อยู่ระหว่างการปรับปรุงหอพักผู้ป่วยใน VIP Royal Ward ชั้น 12 โดยเฟสแรกจะเปิดให้บริการได้ในช่วงเดือนมกราคม 2569 ปัจจุบันมีความคืบหน้า 45%
*รับรู้รายได้ทันที
ส่วนเฟส 2 จะเปิดให้บริการได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2569 การขยายดังกล่าวจะช่วยเพิ่มรายได้ทันทีจากการให้บริการวอร์ดวีไอพี รวมถึงรองรับผู้ป่วยในที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งมีการปรับปรุงห้องคลอดใหม่ซึ่งแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในวันที่ 17 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมีการเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ให้ทันสมัยและสวยงามมากขึ้น มีระบบการเข้าออกแบบดิจิทัล เพื่อสร้างความพึงพอใจในการให้บริการและเป็นมาตรฐานสากล
พญ.ศิเรมอร ทองสิมา ผู้อำนวยการสายงานแพทย์ โรงพยาบาลนครธน คาดว่าในปีนี้และปีหน้า รายได้จะเติบโตเฉลี่ย 5% ต่อปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มจำนวนผู้ป่วยนอก (OPD) และการขยายฐานผู้ป่วยต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลมีทีมเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วยต่างชาติอย่างใกล้ชิด รองรับนโยบาย Medical Hub ของรัฐบาล มุ่ง
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาล 3/2568 บริษัทมีรายได้รวม 525.5 ล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) จำนวน 83.4 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนต่อรายได้ที่ 16% และมีกำไรสุทธิ 62.4 ล้านบาท ส่วนในงวด 9 เดือนปี 2568 มีรายได้รวม 1,517.7 ล้านบาท มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) ที่ 214.8 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 160.6 ล้านบาท
*ย้ำแนวทางปันผลสม่ำเสมอ
“แม้เผชิญความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เรายังคงบริหารงานอย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพ สะท้อนผ่านอัตราส่วน P/E และ P/BV ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธุรกิจสุขภาพ (9.47 เท่า และ 1.12 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ย 20.42 เท่า และ 2.55 เท่าตามลำดับ) ขณะที่ยังคงมีแนวทางจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ สอดคล้องกับผลการดำเนินงานด้วยมาตรฐานธรรมาภิบาลที่แข็งแกร่งและโปร่งใส เชื่อมั่นว่าสามารถต่อยยอดโอกาสการเติบโตในระยะยาวได้อย่างยั่งยืนเมื่อภาวะเศรษฐกิจและตลาดกลับเข้าสู่ภาวะปกติ” พญ. ศิเรมอร กล่าวในที่สุด
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
