SPRC “เมย์แบงก์”มองเป็นหุ้นเด่นโรงกลั่น อัพราคาเป้าหมายเป็น 9 บาท/หุ้น

#SPRC #ทันหุ้น-บล.เมย์แบงก์(ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC มองว่าเป็นหุ้นเด่นกลุ่มโรงกลั่น จึงแนะนำซื้อ พร้อมทั้งปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 9.00 บาท จากเดิมอยู่ที่ 7.90 บาท เนื่องจากฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรต่อหุ้น หรือ EPS ในช่วงปี 2568-2571 ขึ้น 13-70% โดยคาดว่า EPS ในปี 2569-2570 จะเติบโตที่ 9% และ 21% ตามลำดับ แม้จะได้รับผลกระทบจากการปิดซ่อมบำรุงในไตรมาส 1/69
โดยมองว่า SPRC มีปัจจัยหนุนหลักมาจาก GRM ที่แข็งแกร่ง อัตราการกลั่น (u-rate) ที่สูงขึ้น และต้นทุนต่อหน่วยที่ลดลงหลังการปิดซ่อมใหญ่ (turnaround) ยังมองเห็นโอกาสที่กำไรและราคาเป้าหมายจะปรับขึ้นต่อได้ หาก SPRC สามารถทำ GRM สูงกว่าระดับค่าการกลั่นของสิงคโปร์ในระยะกลาง แม้ราคาหุ้นจะปรับขึ้นมาบ้างแล้วแต่มูลค่ายังคงน่าสนใจโดยเทรดที่เพียง P/BV 0.55 เท่า ซึ่งถูกกว่าระดับต่ำสุดช่วงโควิดที่ 0.63 เท่า พร้อมอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 6.3–9.7% ในปี 2568–2570
ฝ่ายวิจัยเมย์แบงก์ คาดว่าผลดำเนินงานของ SPRC จะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังการปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่(TAM) ในไตรมาส 1/69 จากความเสถียรในการเดินเครื่องที่ดีขึ้น – หลัง TAM ปี2562 เคยมีปัญหาที่ทำให้ความเสถียรลดลง ซึ่งรอบนี้คาดว่าจะกลับมาดีขึ้น, มีการอัปเกรดเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความสามารถในการกลั่นน้ำมันดิบแบบ light-sweet
ทั้งนี้จากสองปัจจัยดังกล่าว จึงปรับเพิ่มสมมติฐานอัตราการกลั่น (u-rate) จาก 92% เป็น 94% หลัง turnaround และฝ่ายวิจัยยังเห็นโอกาสที่ต้นทุนการดำเนินงาน (OPEX) จะลดลงจากปริมาณการกลั่นที่มากขึ้นและความเสถียรที่สูงขึ้น
"เราเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 9.0 บาท จากการปรับเพิ่มคาดการณ์กำไร และการเลื่อนฐานมูลค่าไปสิ้นปี 2569 แต่ถูกหักล้างบางส่วนโดย WACC ที่สูงขึ้นเป็น 12.6% (จากเดิม 10.7%) SPRC ยังคงเทรดในระดับที่ถูกมาก โดยซื้อขายที่เพียง P/BV ปี 2569 ที่ 0.55 เท่า ต่ำกว่าระดับต่ำสุดช่วงโควิดที่ 0.63 เท่า และต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 0.93 เท่า หุ้นยังให้เงินปันผล 6.3–9.7% ในปี2568–2570 และยังมีโอกาสปรับเพิ่มได้อีก เนื่องจากมีภาระหนี้ต่ำ กระแสเงินสดอิสระสูงและบริษัทแม่อย่าง Chevron มุ่งเน้นการคืนเงินสดให้ผู้ถือหุ้น"ฝ่ายวิจัยเมย์แบงก์ ระบุในบทวิเคราะห์
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
