SFTบิ๊กป้อนออเดอร์เท่าตัว ลุ้นQ2ทำนิวไฮ-กองทุนจ้อง
ทันหุ้น – SFT รายใหญ่ป้อนออเดอร์เพิ่มขึ้นเท่าตัว หนุนผลงานไตรมาส 2/64 มีลุ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากไตรมาสแรก เล็งคลอดสินค้าแพ็กเกจจิ้ง จับกลุ่มพรีเมียม พร้อมทำตลาดครึ่งปีหลัง ฟากผู้บริหารลั่นเป็นหุ้น Growth Stock สถาบัน กองทุนสนลงทุน หลังเติบโตตัวเลข 2 หลักทุกปี แย้มแผนเล็งขยายฐานลูกค้าญี่ปุ่น
นายซุง ชง ทอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SFT หนึ่งในผู้นำการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า บริษัทคาดทิศทางผลประกอบการไตรมาส 2/2564 จะทำสถิติใหม่สูงสุด หรือทำนิวไฮต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2564 ซึ่งการเติบโตมาจากผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูป ระบบการพิมพ์กราเวีย เนื่องจากลูกค้ารายใหญ่มีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) เพิ่มขึ้นเท่าตัว
ลุ้น Q2 ทำนิวไฮ
ขณะที่ลูกค้ารายอื่น มีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่องทุกกลุ่ม ทุกอุตสาหกรรม ทำให้บริษัทประเมินทิศทางผลประกอบการไตรมาส 2/2564 จะเติบโตเพิ่มขึ้น ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าของ SFT กลุ่มหลักคือกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม และรองลงมาคือกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมความงาม กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน เป็นต้น
ขณะเดียวกันบริษัทมองผลประกอบการไตรมาส 3 และ 4/2564 จะเติบโตได้ดี เพราะปัจจุบันมีออเดอร์ล่วงหน้ายาวไปถึงเดือนสิงหาคมแล้ว ทั้งนี้บริษัทมั่นใจรายได้ทั้งปี 2564 จะเติบโตตามเป้าหมายที่ 15-20% จากปีก่อน 678.18 ล้านบาท โดย 3 เดือนแรกบริษัทมีรายได้แล้ว 189.35 ล้านบาท เพราะบริษัทยังมีออเดอร์จากลูกค้าเข้ามาจำนวนมาก อีกทั้งบริษัทมีไลน์ผลิตสินค้าทั้งหมด 5 ไลน์ผลิต และพร้อมจะรองรับออเดอร์ที่มีเข้ามา
นอกจากนี้ยังมีแผนจะเพิ่มไลน์ผลิต และคลังสินค้า โรงงานใหม่เพื่อเตรียมพร้อมรับออเดอร์ในปี 2565 โดยวางงบลงทุนไว้ที่ 140 ล้านบาท เพื่อใช้ลงเครื่องจักร สำหรับผลิตสินค้า และในช่วงครึ่งปีหลังปี 2564 บริษัทวางแผนจะทำตลาดสินค้าใหม่ จำนวน 2-3 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับแพ็กเกจจิ้ง และเป็นสินค้าพรีเมียม คู่แข่งน้อย ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมียอดขายสินค้าดังกล่าวได้ค่อนข้างสูง ทั้งนี้บริษัทขอดูตลาด และกลุ่มลูกค้าภายหลังทำการตลาดในครึ่งปีหลังปี 2564 ว่าจะเป็นอย่างไร หลังจากนั้นบริษัทจึงจะพิจารณาการลงทุนในสินค้าพรีเมียมดังกล่าว
ขยายฐานต่างแดน
นายซุง ชง ทอย กล่าวต่อว่า บริษัทมั่นใจทิศทางธุรกิจระยะยาว 6 ปี ต่อจากนี้จะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักจากการจำหน่ายสินค้าให้กับลูกค้า ขณะเดียวกันบริษัทวางแผนจะขยายฐานลูกค้าไปในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทประเมินทิศทางการเติบโตในญี่ปุ่น ยังมีช่องทางการขยายตัวอีกมาก โดยหากสามารถเปิดประเทศ และเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ บริษัทจะทำการเดินทางไปดูตลาด และวางแผนการขยายธุรกิจ
“เรายังเชื่อว่า SFT จะเป็นหุ้น Growth Stock ต่อเนื่องไปในอนาคต เพราะเรายังเติบโตได้ทุกปี ทั้งรายได้ กำไร ก็เติบโตในตัวเลข 2 หลัก จากการเติบโตของเรา ทำให้มีสถาบัน นักลงทุน กองทุนไพรเวทฟันด์ สนใจเข้ามาลงทุนหุ้น SFT จำนวนมาก”นายซุง ชง ทอย กล่าว