ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ข้อควรรู้ก่อนเป็นครู
จากกรณี การตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพครู ของครูในโรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ราชพฤกษ์ ทางคุรุสภาเข้าตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพครู จำนวน 411 คน เป็นครูชาวไทย 95 คน ครูต่างชาติ 106 คน พบครูสอนเด็กอนุบาลห้อง "ครูจุ๋ม" ไม่มีใบประกอบวิชาชีพทั้ง 4 ราย ขณะที่ตำรวจนำครูชาวฟิลิปปินส์สอบปากคำพร้อมแจ้งข้อหาตามที่มีข่าวเสนอไปก่อนหน้านั้น ซึ่งเป็นการตรวจเอกสารหลักฐานประกอบการประกอบวิชาชีพครูตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ การสอบบรรจุข้าราชการครูหรือครูผู้ช่วย สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) กำหนดให้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หรือหลักฐานที่ใช้แสดงในการประกอบวิชาชีพครูตามที่คุรุสภาออกให้ เพื่อปฏิบัติหน้าที่สอน ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารดังกล่าวเพื่อความเข้าใจสำหรับผู้ต้องการนำไปเป็นหลักฐานในการสอบบรรจุเป็นข้าราชการครู ดังนี้
1. ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หมายถึง หลักฐานซึ่งออกให้ผู้มีคุณสมบัติตามมาตรฐานความรู้ และมาตรฐานประสบการณ์วิชาชีพตามข้อบังคับคุรุสภา มีสิทธิประกอบวิชาชีพครู ซึ่งเป็นวิชาชีพควบคุมตามกฏหมาย มีอายุ 5 ปี
2. หนังสือรับรองสิทธิ หมายถึง หนังสือที่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาออกให้แก่ผู้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ พ.ศ. 2547 และข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ 2556 เพื่อใช้แสดงว่าผู้ถือหนังสือ เป็นผู้มีสิทธิในการประกอบวิชาชีพ และอยู่ในระหว่างการดำเนินการเสนอออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูให้ผู้ยื่นคำขอ หนังสือรับรองสิทธิ มีอายุ 60 วัน นับตั้งแต่วันออก
3. ใบอนุญาตปฏิบัติการสอน หมายถึง หลักฐานที่แสดงคุณสมบัติของผู้ถือว่ามีเฉพาะมาตรฐานความรู้วิชาชีพครู ตามข้อบังคับคุรุสภามีสิทธิประกอบวิชาชีพครู โดยอยู่ในความควบคุมของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา และเมื่อได้ปฏิบัติการสอนเป็นเวลาต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 1 ปี ให้นำหลักฐานการผ่านการรับรองประสบการณ์การสอนจากสถานศึกษา ประกอบกับใบอนุญาตปฏิบัติการสอน มาขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้ ใบอนุญาตปฏิบัติการสอนนี้มีอายุ 2 ปี และสามารถขอรับใบอนุญาตปฏิบัติการสอนได้อีกครั้งหนึ่ง
เอกสารทั้ง 3 ฉบับ ดังกล่าว ตามคำนิยาม คือ หลักฐานที่ออกให้แก่ผู้ยื่นคำขอที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด เพื่อเป็นหลักฐานในการประกอบวิชาชีพครู และเป็นหลักฐานที่ใช้ในการสมัครสอบเป็นครูได้
กรณี ผู้มีหนังสืออนุญาตให้ประกอบวิชาชีพครู โดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ คุรุสภา ถือว่า ผู้ได้รับอนุญาตดังกล่าวยังไม่มีคุณสมบัติในการได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หรือใบอนุญาตปฏิบัติการสอน หรือหนังสือรับรองสิทธิดังกล่าว แต่สถานศึกษามีเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องการให้ผู้นั้นประกอบวิชาชีพครูในสถานศึกษาโดยไม่ผิดกฎหมายสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 จึงขออนุญาตจากคุรุสภา ซึ่งเป็นการอนุญาตให้สถานศึกษารับเข้าประกอบวิชาชีพครู หากลาออกจากสถานศึกษาการอนุญาตดังกล่าวถือว่ายกเลิก หนังสืออนุญาตดังกล่าว อนุญาตให้ประกอบวิชาชีพในสถานศึกษาที่ขออนุญาตให้เท่านั้น “มิได้เป็นหลักฐานที่ใช้แสดงในการประกอบวิชาชีพครูได้ในสถานศึกษาอื่น ๆ
นอกจากนี้ คุรุสภายังให้การรับรองเอกสารหลักฐานที่แสดงว่าผ่านการตรวจสอบหรืออนุมัติออกใบอนุญาตจากคุรุสภาแล้ว ดังนี้
1) เอกสารแสดงข้อมูลผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ที่พิมพ์ออกจากระบบสารสนเทศของคุรุสภา ที่มีข้อมูล ชื่อ – ชื่อสกุล เลขที่ใบอนุญาต วันออก และวันหมดอายุที่เป็นปัจจุบัน และ
2) หนังสือรับรองของคุรุสภา ที่แจ้งว่าได้ตรวจสอบคุณสมบัติเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการเสนอคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ เพื่อพิจารณาอนุมัติ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สมัครสอบไม่ต้องเดินทางมารับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ณ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
สำหรับกรณี ผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแล้วไปประกอบวิชาชีพ จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา มาตรา 46 มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท
ส่วนบุคคลที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และพยายามแสดงตัวด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม ให้คนอื่นเข้าใจว่าตนเองมีใบอนุญาต มีความผิดตาม พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา มาตรา 46 มีโทษ จำคุก 3 ปี ปรับ 60,000 บาท
ภาพโดย Sasin Tipchai จาก Pixabay
++++++++++++++++++++