สารสาสน์ฯ ปฏิเสธไกล่เกลี่ยค่าเสียหายครอบครัวละ 5 ล้าน โยนศาลตัดสิน

วันนี้ (10 พ.ย.63) ผู้ปกครองเด็กนักเรียนที่ถูกครูพี่เลี้ยงโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ทำร้ายร่างกาย เกือบ 30 ครอบครัว รวมตัวกันเพื่อจะมาเจรจาไกล่เกลี่ยกับทางโรงเรียน หลังอัยการสูงสุดได้นัดทั้ง 2 ฝ่ายมาร่วมพูดคุยกันหาทางออกในวันนี้

หนึ่งในตัวแทนของผู้ปกครอง เปิดเผยก่อนเข้าห้องรอเจรจาว่า หลังผ่านเหตุการณ์มาประมาณ 2 เดือน สภาพจิตใจของลูกยังไม่กลับมาเป็นปกติ เพราะมีอาการระแวง ต้องคอยปิดประตูหน้าต่างหนีทุกครั้งที่ได้ยินเสียงดังเนื่องจากหวาดผวาอย่างรุนแรง ไม่อยากเข้าสังคม และไม่ทราบว่าลูกจะกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นปกติเมื่อไร จึงอยากให้ทางโรงเรียนเข้าใจว่าผลของการกระทำจากครูพี่เลี้ยงส่งผลต่อเด็กๆ มากแค่ไหน

สำหรับในส่วนของเงินเยียวยาครอบครัวละ 5 ล้านบาท ถือว่าไม่มากหากเทียบกับการต้องศูนเสียสภาพจิตใจไป โดยหากที่ผ่านมาโรงเรียนออกมารับผิดชอบคิดว่ายอดเงินที่เรียกค่าเสียหายจะไม่สูงแบบนี้ พร้อมยืนยันจะเรียกค่าเสียหายเท่าเดิม ส่วนจะลดลงไปกว่านี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับท่าทีของทางโรงเรียน ที่สำคัญผู้ปกครองบอกว่าขอให้โรงเรียนส่งตัวแทนมาพูดคุยกันก่อน

อย่างไรก็ตาม การเรียกค่าเสียหายจากโรงเรียนรวมทุกครอบครัวแล้วเป็นเงินทั้งหมด 130 ล้านบาท

ด้าน นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ให้ข้อมูลว่า การนัดเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่าง ผู้ปกครองกับทางโรงเรียน เป็นการลดคดีในชั้นศาล หากทั้ง 2 ฝ่ายสามารถเจรจาค่าเสียหายร่วมกันได้ ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นผู้เชิญทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุย แต่ทางผู้บริหารโรงเรียนสารสาสน์ฯ ได้ตอบกลับมาทางจดหมาย เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน

โดยขอแจ้งว่า ไม่สมัครใจในการพูดคุยและมีความประสงค์ให้ศาลเป็นผู้ตัดสินค่าความเสียหาย และถึงแม้โรงเรียนจะปฏิเสธ แต่สำนักงานอัยการสูงสุดก็จะหารือร่วมกับคณะทำงานและผู้ปกครอง โดยอาจจะทำหนังสือเชิญมาอีกครั้ง หากโรงเรียนไม่สมัครใจมาไกล่เกลี่ยก็จะทำหน้าที่ในการแนะนำชี้ช่องทางกฎหมายให้

สำหรับความคืบหน้าในคดีอาญาที่มีการดำเนินคดีกับครูและบุคคลากรของโรงเรียนสารสาสน์ฯ ในความผิดฐานทำร้ายร่างกาย และ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ศาลแขวงนนทบุรี ได้ทำการฟ้องไปแล้วจำนวน 19 คดี ตัดสินแล้ว 7 คดี ในความผิด 13 กระทง มีคำพิพากษาจำคุกความผิดกระทงละ 15 วันโดยไม่รอลงอาญาส่วนที่เหลือจะทยอยตัดสินคดี