ปี 2568 ฝนตกชุก หนุนผลไม้ล้นตลาด กดราคาร่วง - ยอดขายสะดุด

ผลไม้ล้นตลาด-ราคาดิ่ง ยอดขายปี 2568 สะดุดจากหลายปัจจัย
ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ฤดูกาลผลไม้ที่มีผลผลิตล้นตลาดมากที่สุดในรอบหลายปี โดยในปี 2568 คาดว่าผลไม้เศรษฐกิจหลักอย่างทุเรียน ลำไย และมังคุด จะมีผลผลิตเพิ่มขึ้นรวมกว่า 21.8% จากค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2563-2566 อันเป็นผลจากปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้นถึง 6.1% ส่งผลให้ต้นไม้มีผลผลิตอุดมสมบูรณ์มากกว่าทุกปีที่ผ่านมา
ผลผลิตเพิ่มแต่ดีมานด์ไม่โต ... วิกฤตซัพพลายล้นตลาด
แม้ผลผลิตจะเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะทุเรียนที่เพิ่มขึ้นถึง 30.7% และมังคุดถึง 35.1% แต่ความต้องการบริโภคในประเทศและต่างประเทศกลับไม่สอดรับ ทำให้เกิด “ผลผลิตส่วนเกิน” และส่งผลโดยตรงต่อราคาขายที่ปรับตัวลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ยอดขายโดยรวมทรุด ผลกระทบส่งออกฉุดรายได้ผลไม้ไทย
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า มูลค่ายอดขายผลไม้สดไทยทั้งปี 2568 จะลดลง 4.8% เหลือ 204,146 ล้านบาท โดยแรงกดดันหลักมาจาก ยอดขายจากการส่งออก ที่คาดว่าจะหดตัว 6% จากราคาที่ตกต่ำและความเสี่ยงในการพึ่งพาตลาดจีนสูงเกินไป
ในปี 2567 ที่ผ่านมา สัดส่วนการส่งออกทุเรียนไปจีนสูงถึง 97% ลำไย 73% และมังคุด 31% ซึ่งทำให้เศรษฐกิจผลไม้ไทยผูกติดกับอุปสงค์ของจีนอย่างยิ่งยวด หากตลาดจีนสะดุด ยอดขายผลไม้ไทยจึงสั่นคลอนทันที
ปัจจัยเสี่ยงส่งออกได้แก่
- คู่แข่งแย่งตลาดจีน เช่น เวียดนาม กัมพูชา อินโดนีเซีย
- จีนเข้มงวดด้านความปลอดภัยอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะสารตกค้าง เช่น BY2 และแคดเมียมในทุเรียน
ตลาดในประเทศก็ไม่สดใสนัก
แม้ยอดขายผลไม้ในประเทศคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.3% แต่ก็ถือว่าชะลอตัวจากปี 2567 ที่โตถึง 5.4% เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศยังอ่อนแรง ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติก็มีแนวโน้มลดลง ส่งผลต่อการบริโภคผลไม้โดยรวม
ปี 2568 นับเป็นปีที่อุตสาหกรรมผลไม้ไทยต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน แม้ผลผลิตจะอุดมสมบูรณ์ แต่หากไม่สามารถบริหารจัดการตลาดทั้งในและต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็อาจกลายเป็น “ดาบสองคม” ที่ฉุดรายได้ผลไม้ไทยลงอย่างน่าเสียดาย