ผู้ประกาศข่าวสาวอัฟกัน สัมภาษณ์ตาลิบันออกจอแล้ว หนีดีกว่า
ผู้ประกาศข่าวสาวอัฟกัน - ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ผู้ประกาศข่าวหญิงที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการสื่อมวลชนอัฟกานิสถาน ในการสัมภาษณ์โฆษกกองกำลังตาลิบัน เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก อพยพออกจากอัฟกานิสถานแล้ว เพราะตกอยู่ในอันตรายเช่นเดียวกับนักข่าวและชาวอัฟกันหลายคนที่กำลังเผชิญ ภายใต้การปกครองของตาลิบัน
บีเฮชตา อาร์กานด์ วัย 24 ปี ผู้ประกาศประจำสถานีโทรทัศน์ TOLO ของอัฟกานิสถาน สัมภาษณ์ นาย มาวลาลี อับดุลฮัก เฮมัด โฆษกตาลิบันจนเป็นที่ฮือฮา หญิงสาวเผยว่า สัภาษณ์ยาก แต่ทำลงไปเพื่อผู้หญิงชาวอัฟกานิสถาน
ซาอัด โมห์เซนี เจ้าของสถานี TOLO เปิดใจกับหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ว่า การสัมภาษณ์สมาชิกตาลิบันวันที่ 17 ส.ค. นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อัฟกานิสถาน ที่ผู้แทนตาลิบันมาปรากฏตัวให้สัมภาษณ์สดในสตูดิโอโทรทัศน์และนั่งตรงข้ามกับผู้ประกาศข่าวสาว เพราะต้องการสื่อให้ชาวโลกเห็นว่าตาลิบันยึดทางสายกลาง
ด้านผู้ประกาศสาว อาร์กานด์ กล่าวว่า “ฉันบอกตัวเองว่า พวกเราคนใดคนหนึ่งต้องเริ่ม ถ้าอยู่แต่บ้านหรือไม่ไปทำงานที่ออฟฟิศ พวกตาลิบันก็จะบอกให้ผู้หญิงไม่ต้องไปทำงาน แต่ฉันบอกกับตัวเองว่า ต้องเริ่มทำงานและกล่าวกับสมาชิกตาลิบันว่า ผู้หญิงต้องการสิทธิของเรา เราต้องการทำงาน เราต้องมีที่ยืนในสังคม นี่เป็นสิทธิของเรา”
อย่างไรก็ตาม ถัดมาอีกสองวัน ผู้ประกาศข่าวสาวสัมภาษณ์ มาลาลา ยูซัฟไซ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ปี 2557 ผู้รอดชีวิตจากการที่ถูกตาลิบันในปากีสถานยิงศีรษะ ก่อนผันเป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิในการเรียนหนังสือของเด็ก โดยเฉพาะเด็กหญิง
การสัมภาษณ์มาลาลา อาจทำให้ตาลิบันขุ่นเคือง ยิ่งแต่ละวันที่ผ่านไป ตาลิบันก็จะมีรายชื่อบัญชีใหม่ๆ ที่จะจัดการกับสื่อ สำนักข่าวอยู่เสมอ
หลังจากสัมภาษณ์มาลาลาไปได้สองวัน อาร์กานด์ติดต่อขอความช่วยเหลือจากนักเคลื่อนไหว จากนั้น จึงเดินทางไปขึ้นเครื่องบินของกองทัพอากาศกาตาร์เพื่ออพยพพร้อมกับสมาชิกครอบครัวอีกหลายคนและหวังว่าคงจะได้กลับบ้านเกิด หากตาลิบันรักษาคำพูดและสถานการณ์ดีขึ้น
พร้อมกับตั้งปณิธานว่า “เมื่อใดที่รู้สึกปลอดภัยและไม่มีการขู่คุกคาม ฉันจะกลับมาบ้านเกิดและทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน”
อาร์กานด์ติดต่อกับผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นผ่านแอปพลิเคชัน WhatsApp และเล่าประสบการณ์ที่พบเจอเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วให้ฟังว่าหนีจากอัฟกานิสถานเพราะกลัวตาลิบันเหมือนกับชาวอัฟกานิสถานหลายล้านคน
ด้านซาอัด โมห์เซนี เจ้าของสถานี TOLO ยกย่องอาร์กานด์ว่าเป็นสัญลักษณ์ของอัฟกานิสถาน ขณะนี้ ผู้สื่อข่าวและนักข่าวที่มีชื่อเสียงออกกันไปเกือบหมดแล้วเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย สถานีจึงต้องเฟ้นหาคนใหม่มาแทนเพื่อออกอากาศต่อไป
อาร์กานด์ อายุ 24 ปี กล่าวกับซีเอ็นเอ็นว่าตัดสินใจว่าโตขึ้นจะเป็นนักข่าว ขณะเรียนชั้น ม.3 หลังจากครูท่านหนึ่งเรียกให้มาอ่านข่าวหน้าชั้นซึ่งตนอ่านเหมือนผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์
ต่อมา อาร์กานด์สานฝันด้วยการเรียนวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยคาบูล 4 ปี เมื่อจบการศึกษาแล้ว เริ่มทำงานกับสำนักข่าวหลายสำนักและสถานีวิทยุหลายแห่งเป็นเวลาสั้นๆ ก่อนร่วมงานกับ TOLO ในฐานะผู้ประกาศข่าวเมื่อต้นปีและทำงานได้เพียง 1 เดือนกับ 20 วัน ก่อนที่ตาลิบันบุกยึดอัฟกานิสถาน