TISCO โบรกฯ สแกนปี 65 เลือกเป็น 1 ในหุ้นที่ควรซื้อสะสม
ทันหุ้น - บล.เอเอสแอล จำกัด ประเมินกำไรสุทธิ Q4/64 เท่ากับ 1.62 พันล้านบาท ขยายตัว 3.6%QoQ จากรายได้ Non-NII หนุน โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมกองทุนและประกัน แม้ว่าจะมีการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายที่เป็นปัจจัยฤดูกาล โดยมี OPEX/Rev อยู่ที่ 49% เพิ่มขึ้นจาก Q3/64 ที่ระดับ 47% และการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น ด้าน YoY หดตัวเล็กน้อย จาก Non-NII ที่หดตัวลงจากฐานที่สูงในปีก่อนทีมีกำไรจากเงินลงทุน 226 ล้านบาท และรายได้ดอกเบี้ยที่หดตัว ส่วนภาพทั้งปีประเมินกำไรสุทธิที่ 6.6 พันล้านบาท สินเชื่อหดตัว 8% NIM หดตัวลงเหลือ 4.5% ส่วน NPLs ratio ราว 2.8% ขณะที่ Credit cost ลดลงเหลือ 99.1 bps จากปีก่อนที่ 148.2 bps
แนวโน้มปี 65 เติบโตอย่างระมัดระวัง คาดการณ์กำไรสุทธิปี 65 ทำได้ 6.87 พันล้านบาท ขยายตัว 4.1%YoY จากสินเชื่อที่ทรงตัว (ฝ่ายวิจัยคาดเพิ่มขึ้นเพียง 1.5%) ทรงผลต่อรายได้ดอกเบี้ยที่จะหดตัวลง แนวโน้ม NIM ลดลงเหลือ 4.3% ขณะที่รายได้ Non-NII ยังขยายตัวจากธุรกิจประกันและกองทุน ด้านค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลดลงเหลือ 43% ส่วน Credit cost ลดลงเหลือ 95.3 bps เพื่อยังคง Coverage ratio ในระดับสูง 200% รวมถึงในช่วงที่ผ่านมามีการตั้งสำรองล่วงหน้าในระดับสูงมาแล้ว
แนะนำ “ซื้อ” TISCO ที่ราคาเป้าหมาย 114.50 บาท โดดเด่นด้วยปันผลสูง เป็น 1 ในหุ้นที่ควรซื้อสะสมเนื่องจากให้ปันผลที่สูง สะท้อนผ่านฐานเงินทุน Tier-1 เกือบ 20% (ขั้นต่ำ 8.5%) ทำให้คาดหวังการจ่ายปันผลที่สูง คาดปีนี้ DPS 6.65 บาท/หุ้น คิดเป็น dividend yield ที่สูง 7% แนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมายสิ้นปี 65 ที่ 114.50 บาท (GGM: LT ROE 16% สูงที่สุดในกลุ่ม, LT growth 2.5%) อิง PBV 2.16 เท่า รวมถึงประเมินว่าการตั้ง Credit cost ในปี 65 ของ TISCO จะต่ำสุดในกลุ่ม
สำหรับปัจจัยเสี่ยง ความรุนแรงของสถานการณ์โควิด-19, การตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น, แนวโน้มสินเชื่อเติบโตต่ำกว่าเป้า และคุณภาพลูกหนี้ที่อ่อนแอ