รีเซต

สภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน ประณามกองทัพ ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงฯ หลังโดนโจมตีฐานที่มั่นกะทันหัน

สภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน ประณามกองทัพ ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงฯ หลังโดนโจมตีฐานที่มั่นกะทันหัน
มติชน
11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:16 )
103
สภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน ประณามกองทัพ ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงฯ หลังโดนโจมตีฐานที่มั่นกะทันหัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (10 กุมภาพันธ์) คณะกรรมการบริการสูงสุด สภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน ออกแถลงการณ์ ประณามการกระทำของทหารพม่าที่ละเมิดข้อตกลงสนธิสัญญาหยุดยิงทั่วประเทศ (NCA) เข้าโจมตีฐานที่มั่นของทหารไทยใหญ่ พื้นที่บ้านคายเสม และป๋างคา ต.เมืองตุ๋ง อ.สีป้อ จ.จ๊อกแม รัฐฉานภาคเหนือ ทำให้กระทบต่อประชาชนในพื้นที่และอาจจะส่งผลให้มีการสู้รบเกิดขึ้นในพื้นที่อื่นๆ อีกต่อไป รวมถึงทำให้ ข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศต้องโมฆะและชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่างๆ จะไม่มีความเชื่อมั่นต่อพม่าในที่สุด

 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทหารพม่า จำนวน 4 กองพัน กำลังประมาณ 300 นาย เข้าโจมตีฐานที่มั่นกองทัพแห่งรัฐฉาน พื้นที่บ้านคายเสม ต.เมืองตุ๋ง อ.สีป้อ จ.จ๊อกแม ต่อมา วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ทหารพม่าได้เข้าโจมตีฐานที่มั่นกองทัพแห่งรัฐฉาน RCSS/SSA พื้นที่ บ้านป๋างคา ต.เมืองตุ๋ง อ.สีป้อ จ.จ๊อกแม โดยทั้งสองฝ่ายได้มีการปะทะอย่างหนัก

 

แถลงการณ์ระบุว่า จากการยึดอำนาจการปกครองประเทศของกองทัพพม่า ทำให้ประชาชนทุกภาคส่วนทั่วประเทศลุกขึ้นมาประท้วงทั่วทุกพื้นที่ ซึ่งขณะที่ทุกฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นด้วยสันติวิธี และแก้ไขความยากลำบากในหลายๆ ด้านอยู่นั้น กองทัพพม่ากลับส่งกำลังเข้าเปิดการสู้รบในพื้นที่ชนบท ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวต้องประสบกับความทุกข์ยากลำบากมากยิ่งขึ้น

 

หากกองทัพพม่าไม่ทำการติดต่อประสานงาน หรือแจ้งให้กองทัพแห่งรัฐฉาน RCSS/SSA ให้ทราบล่วงหน้า และทำการส่งทหารเข้ามาในพื้นที่ควบคุมเข้าทำการกวาดล้าง หรือเข้าทำการควบคุมพื้นที่ และทำการโจมตีกองทัพรัฐฉานอีก การสู้รบก็คงจะรุนแรงและขยายพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่ง

 

แถลงการณ์ระบุอีกว่า ในการที่กองทัพพม่าส่งทหารเข้ามาโจมตีที่ตั้งของฝ่ายเราเช่นนี้ ถือว่ากองทัพพม่าได้ทำการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศ (NCA) ทำให้ความเชื่อมั่นระหว่างสองฝ่ายลดน้อยลงและเสื่อมสลายไปในที่สุด

 

อย่างไรก็ตาม วันที่ 7 ก.พ.64 กองกำลังติดอาวุธกลุ่ม KNU สังกัด กองพล 5 ได้ออกคำสั่งห้ามทหารพม่าเคลื่อนย้ายกำลังออกนอกที่ตั้งเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะใช้อาวุธตอบโต้ ขณะที่ทหารพม่าบางหน่วยครบรอบต้องรับเสบียงอาวุธและอาหาร อาจต้องมีการเดินทางออกนอกฐานที่มั่น ซึ่ง อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการปะทะกันขึ้นมาก็เป็นได้

 

สำหรับสถานการณ์ในพม่า โดยเฉพาะบริเวณแนวชายแดนที่ติดกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อเมื่อ 9 ก.พ.64 เวลาประมาณ 08.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีเหตุทหารพม่า ฐานที่มั่นตรงข้ามดอยผาตั้ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เหยียบกับระเบิดที่ถูกลอบนำมาวางไว้ บริเวณเส้นทางลงสู่ลำห้วย ขณะจะไปตักน้ำ ทำให้ทหารพม่าเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บสาหัส 2 นาย

 

ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตรับผิดชอบของกองพลน้อยที่ 5 กะเหรี่ยงอิสระ KNU ส่งผลให้ทหารพม่าที่อยู่ประจำฐานดังกล่าวได้ทำการยิงเคลียร์พื้นที่รอบๆ ฐานที่มั่นนานกว่า 1 ชั่วโมง ส่งผลให้ราษฎรในฝั่งไทยพากันตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

เหตุการณ์ดังกล่าว กองกำลัง KNU ได้ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะที่ผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา (KNPP) มองว่าอาจเป็นการสร้างสถานการณ์จากมือที่ 3 เพื่อสร้างความขัดแย้งระหว่างทหารพม่ากับชนกลุ่มน้อยก็เป็นได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง