รีเซต

เจอแล้วสองผัวเมียตีกันแย่งลูก บอกความจริงไม่แรงอย่างภาพ ยังรักกันดี

เจอแล้วสองผัวเมียตีกันแย่งลูก บอกความจริงไม่แรงอย่างภาพ ยังรักกันดี
มติชน
5 พฤศจิกายน 2563 ( 10:20 )
263
เจอแล้วสองผัวเมียตีกันแย่งลูก บอกความจริงไม่แรงอย่างภาพ ยังรักกันดี

สองสามีภรรยาที่ทะเลาะกันข้างทาง มีนักศึกษาวิชาทหารเห็นเหตุการณ์แล้วถ่ายคลิปเป็นหลักฐานแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ ตำรวจรู้ตัวแล้ว เชิญมาโรงพักสอบถาม ทั้งสองแจง ทะเลาะกันเล็กน้อย ไม่ได้ตบตีแค่แย่งลูก ไม่มีปืนภาพที่เห็นคือเข็มขัดหลุด สัญญาต่อไปไม่มีเรื่องแบบนี้อีก พร้อมฝากขอ รด.และสังคม ตำรวจปรับ 100 บาท ฐานทะเลาะกันที่สาธารณะ

 

วันที่ 5 พ.ย.63 กรณีนักศึกษาวิชาทหารโรงเรียนนางรองพิทยาคม อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เห็นสองสามีภรรยาตบตีกันคล้ายกับเป็นการแย่งลูกอายุประมาณ 3-4 ขวบ เมื่อเด็กนักเรียนจะเข้าไปห้าม กลับถูกฝ่ายชายดึงชายเสื้อขึ้นเหมือนโชว์อาวุธปืน ก่อนนักศึกษาวิชาทหาร จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นางรอง อ.นางรอง แต่ไม่ทันเพราะทั้งสองได้ขับรถจักรยานยนต์ไปก่อนหน้านี้

 

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา บริเวณตรงข้ามกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 215 ถนนโชคชัย-เดชอุดม ห่างจากตัวอำเภอนางรองประมาณ 2 กม.เหตุการณ์ครั้งนี้โลกโซเชียลต่างออกมาวิจารณ์ แสดงความเป็นห่วงเด็กและปัญหาสังคมกันเป็นจำนวนมาก

 

ล่าสุด พ.ต.ต.รังสิวัฒน์ กังศรานนท์ สารวัตร(สืบสวน)สภ.นางรอง อ.นางรอง รู้ตัวสองสามีภรรยาแล้ว พร้อมเชิญนายสุพิชัย แอมรัมย์ อายุ 35 ปี  ชาว ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ อาชีพ รับจ้าง และนางสาวชมภูนุช แก้วปรือ อายุ 30 ปี ชาว ต.นางรอง อ.นางรอง มาสอบถามข้อเท็จจริง ที่ สภ.นางรอง

 

นายสุพิชัย และ น.ส.ชมภูนุช สองสามีภรรยา เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดว่า วันเกิดเหตุได้พาลูกวัย 3 ขวบไปบ้านแม่ยาย ซึ่งห่างจากตัวอำเภอประมาณ 3 กม.ขากลับภรรยาไม่อยากกลับ แต่ตัวเองมีธุระ จึงเกิดความไม่พอใจกัน

 

 

 

ระหว่างขับรถมาตามทาง ได้มีปากเสียงกัน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ฝ่ายหญิงพยายามจะเอาลูกกลับไปบ้านแม่ แต่สามีไม่ยอม ถึงขั้นจอดรถแล้วทะเลาะกันตามคลิป แต่ไม่ได้ตบตีกันรุนแรง ส่วนภาพที่ รด.เห็นว่ามีปืนนั้น ไม่เป็นความจริง ช่วงยื้อแย่งลูกกันนั้น เข็มขัดตนหลุดออก ก่อนจะขึ้นรถจึงดึงชายเสื้อขึ้นแล้วเอาเข็มขัดใส่คืน

 

กระทั่งมาเห็นภาพตัวเองในข่าว โดยหลังจากนี้จะใจเย็นให้มากกว่านี้จะไม่ทะเลาะกันอีก จึงอยากจะฝากขอโทษนักศึกษาวิชาทหารที่ทำให้ตกใจ และขอโทษสังคมที่ทำเรื่องเสื่อมเสีย และอยากเตือนการทำสิ่งที่ไม่ดีในที่สาธารณะ เพราะทุกคนมีกล้องโทรศัพท์

 

พ.ต.ต.รังสิวัฒน์ กล่าวด้วยว่า การเข้ามาให้การของสามีภรรยา เบื้องต้นคาดว่าให้การตามความเป็นจริง โดยเฉพาะอาวุธปืนที่ รด.ให้ข้อมูลช่วงเกิดเหตุ ชุดสืบสวนได้เข้าไปตรวจค้นบ้านมาก่อนหน้านี้ ไม่พบว่ามีสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด

 

ทั้งนี้หลังสอบสวน ตำรวจได้ทำการเปรียบเทียบปรับทั้งสองฐานทะเลาะวิวาทกันในที่สาธารณะ ปรับเป็นเงิน 100 บาทแล้วปล่อยตัวไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง