รับบทมือสังหารปีนตึก ! Ubisoft เปิดตัว Assassin’s Creed เวอร์ชัน VR
ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทหลายแห่งเปิดตัวเทคโนโลยีและอุปกรณ์ท่องโลก Virtual Reality หรือโลกเสมือนจริงกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบริษัท HTC หรือแว่น Quest Pro ของ Meta บริษัทเกมยักษ์ใหญ่หลายเจ้าเองมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้เล่นผ่านเกม VR กันมากขึ้น และในคราวนี้ บริษัทผู้ผลิตเกมแนว Open World หรือโลกเปิด ชื่อดังอย่าง Ubisoft (ยูบิซอฟต์) นำแฟรนไชส์ Assassin’s Creed (อัสแซสซินส์ครีด) มาสู่โลก VR ด้วยเช่นกัน
โดยการเปิดตัววิดิโอตัวอย่างเกม Assassin’s Creed ในรูปแบบ VR ครั้งนี้ทำเอาเกมเมอร์ และแฟนคลับหลายคนดีใจปนสงสัยไม่น้อยว่าตัวเกมจะเป็นอย่างไร เพราะ Assassin’s Creed เป็นเกมมุมมองบุคคลที่ 3 ที่มีจุดเด่นคือระบบลอบเร้น และปีนป่ายอาคารตึกรามบ้านช่องด้วยระบบปาร์กัวร์ (Parkour) หรือการเคลื่อนไหววิ่งกระโดดปีนป่ายข้ามสิ่งกีดขวางอย่างรวดเร็ว โดยไม่ใช่อุปกรณ์เสริมใดใด ดังนั้นถ้าเกมมาในรูปแบบ VR ระบบเกมก็อาจจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เคลื่อนไหวร่างกาย สัมผัสประสบการณ์เป็นมือสังหารผ่านสายตาของผู้เล่นเป็นหลัก
จากมุมมองบุคคลที่ 3 สู่บุคคลที่ 1
ในงานยูบิซอฟต์ ฟอร์วาร์ด (Ubisoft Forward) ซึ่งเป็นงานเปิดตัวเกมใหม่ ๆ ภายในค่าย เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทยูบิซอฟต์ก็ได้เปิดตัว เกม Assassin’s Creed Nexus VR (อัสแซสซินส์ครีด เน็กซัส วีอาร์) หรือเกม Assassin’s Creed ภาคใหม่ฉบับเกม VR ซึ่งตัวเกมภาคนี้ถือเป็นเกมมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (First person) ครั้งแรกในประวัติศาสตร์แฟรนไชส์ Assassin’s Creed อีกด้วย !
สำหรับรายละเอียดเกม Assassin’s Creed Nexus ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นตัวละครเอกจากเกมภาคเก่าถึง 3 ตัวละครได้แก่ Ezio (เอซิโอ) ตัวเอกจากเกม Assassin’s Creed 2 ชาวอิตาลีผู้ผันตัวเองมาเป็นนักฆ่าเพื่อล้างแค้น หลังจากที่คนในครอบครัวถูกสังหาร, Connor (คอนเนอร์) ตัวเอกจากเกม Assassin’s Creed 3 นักฆ่าลูกครึ่งอังกฤษ และชนพื้นเมืองอเมริกา เข้าร่วมสงครามกับฝ่ายกองทัพปฏิวัติ เพื่อปลดแอกอเมริกาจากเจ้าอาณานิคมอังกฤษ และ Kassandra (คาสซานดรา) ตัวเอกหญิงจากเกม Assassin’s Creed Odyssey ซึ่งเป็นนักรบรับจ้าง ผู้พลัดพรากจากครอบครัวในวัยเด็ก และออกตามหาความจริงเกี่ยวกับผู้ให้กำเนิด ท่ามกลางไฟสงครามเพโลพอนนีเซียน ระหว่างเอเธนส์กับสปาร์ตา
ซึ่งนั่นหมายความว่าผู้เล่นจะได้ย้อนเวลาไปสำรวจประเทศอิตาลีในยุคเรอเนซองส์ อเมริกาช่วงการปฏิวัติอาณานิคม และกรีซสมัยโบราณ กันอย่างเต็มอิ่ม แถมยูบิซอฟต์ยังกล่าวอีกด้วยว่า เรื่องราวในเกม Assassin’s Creed Nexus นี้จะเป็นเรื่องราวที่ไม่เคยเล่ามาก่อนในเกมภาคก่อน ๆ อีกด้วย
ระบบเกมมาครบ
ระบบเกม Assassin’s Creed Nexus เปิดให้ผู้เล่นใช้อาวุธ เช่น มีด ดาบ ขวาน คันธนู ระเบิดควัน ไปจนถึงอาวุธใบลับตรงข้อมือสุดเท่ขวัญใจแฟนคลับอย่าง “Hidden blade” (ฮิดเดน เบลด) ซึ่งผู้เล่นสามารถเปิดใช้งานใบมีดด้วยการกดปุ่มแล้วกระตุกข้อมือเลียนแบบตัวละครในเกม สานฝันแฟน ๆ ให้เข้าถึงประสบการณ์เป็นมือลอบสังหารไปอีกขั้น
นอกจากนี้ ยูบิซอฟต์ยังเผยว่าผู้เล่นสามารถเดินสำรวจโลก ปีนป่าย วิ่งบนหลังคา ทำภารกิจและมีปฏิสัมพันธ์กับตัวละครอื่นและโลกในเกมได้อย่างอิสระ เช่น เดินแฝงตัวกับฝูงชน โยนข้าวของเบี่ยงเบนความสนใจศัตรู รวมถึง Leap of faith (ลีป ออฟ เฟท) ท่ากระโดดจากที่สูงลงบนกองฟางที่แฟน ๆ คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวครั้งนี้มีแค่วิดีโอตัวอย่างเท่านั้น ยังไม่มีการเผยภาพวิดีโอเกมเพลย์ (Gameplay) แต่อย่างใด จึงยังไม่เป็นที่แน่ชัดนักว่า Leap of faith ภายในเกมฉบับ VR จะเป็นอย่างไร
กลัวความสูงก็เล่นได้นะ !
สำหรับใครที่กลัวความสูง หรือกังวลว่าจะเกิดอาการปวดหัวปวดตาจากการเล่นเกมแบบ VR ทางยูบิซอฟต์ระบุว่าตัวเกมมีระบบ Peripheral vision blocking (ปิดกั้นมุมมองระยะไกล), Teleportation (ระบบเคลื่อนย้ายไปทางไกล) ระบบนั่งเล่นอยู่กับที่ (Sitting mode) และระบบอื่น ๆ เพิ่มเติม ช่วยให้ผู้เล่นทุกคนสนุกกับเกม
ลงเฉพาะ Meta Quest 2 และ 3
แม้ทางยูบิซอฟต์ยังไม่ได้เปิดเผยราคาและวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่กำหนดคร่าว ๆ ไว้เป็นช่วงปลายปีค.ศ 2023 โดยเกม Assassin’s Creed Nexus เป็นเกมเอกซ์คลูซีฟลงเฉพาะเครื่อง Meta Quest 2 และ 3 เท่านั้น โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าชม ดูภาพตัวอย่างเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Ubisoft แต่ในขณะนี้ ตัวเกมยังไม่เปิดให้สั่งจองล่วงหน้า คงต้องอดใจรอกันต่อไปอีกสักพัก
โดยแฟรนไชส์ Assassin’s Creed นั้นเป็นเกมแนวอิงประวัติศาสตร์ผสมเรื่องแต่ง แนวผจญภัยแอ็คชั่นลอบเร้น ในโลกเปิด โดยผู้เล่นได้ย้อนอดีตไปสำรวจความขัดแย้งระหว่างกลุ่ม "Assassin" (อัสแซสซินส์) ซึ่งต้องการรักษาอิสรภาพและความสงบในโลก กับ กลุ่มอัศวินเทมพลาร์ (Templar Order) ที่ต้องการแย่งชิงอำนาจเพื่อควบคุมมนุษยชาติ ซึ่งตัวละครเอกและเวลาสถานที่ฉากหลังในเกม จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเนื้อเรื่องในแต่ละภาค ในปัจจุบันแฟรนไชส์ Assassin’s Creed มีตัวเกมเนื้อเรื่องหลักทั้งหมด 12 ภาค ไปจนถึงภาคเนื้อเรื่องเสริม และภาพยนตร์ดัดแปลง
ที่มาข้อมูลและภาพ Verge, Ubisoft, Twitter @assassinscreed