วันแรก "คนละครึ่งพลัส" โซเชียลแห่โพสต์ "เงินเข้าแล้ว"

29 ตุลาคม 2568 วันแรกของการเปิดใช้งานโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ภาพรวมตลอดช่วงเช้าพบว่ากระแสตอบรับของประชาชนเป็นไปอย่างคึกคัก ทั้งในโลกออนไลน์และจุดจำหน่ายสินค้าทั่วประเทศ ผลการสำรวจของ เรียลวอทช์ แล๊ป (RealWatch Lab) หน่วยวิจัยข้อมูลจากบริษัท เรียล สมาร์ท จำกัด (มหาชน) จากการเก็บข้อมูลบนโซเชียลมีเดียช่วงเวลา 6.00–13.00 น. รวม 11,793 ข้อความทั่วประเทศ พบว่าร้อยละ 96 ของการพูดถึงเป็นเนื้อหาทั่วไปที่สะท้อนการเริ่มต้นใช้งานโครงการ โดยประชาชนส่วนใหญ่รายงานว่าได้รับเงินสนับสนุนเข้าแอปเป๋าตังแล้ว พร้อมสอบถามจำนวนเงินที่ใช้ได้ต่อวันและร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการมากที่สุด

นอกจากนี้ ยังมีการแชร์ข้อมูลร้านค้า ทำเล และประสบการณ์ใช้งานในพื้นที่ต่าง ๆ ขณะที่บางส่วนสะท้อนปัญหาด้านระบบ เช่น การที่ร้านค้าต้องสร้างรหัส QR Code ใหม่ทุกครั้งเมื่อต้องรับเงินผ่านแอปถุงเงิน ซึ่งสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โดยเฉพาะร้านขนาดเล็กที่ยังปรับตัวไม่ทันกับระบบดิจิทัล

ส่วนความคิดเห็นเชิงบวก มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 2 ส่วนใหญ่กล่าวถึงผลดีทางเศรษฐกิจ โดยมองว่าโครงการช่วยกระตุ้นยอดขายในตลาดท้องถิ่นและลดภาระค่าครองชีพ ขณะเดียวกันยังมีผู้ใช้บางส่วนแสดงความพึงพอใจที่สามารถใช้สิทธิกับระบบขนส่งมวลชน เช่น รถไฟฟ้าได้โดยตรง ซึ่งช่วยให้การเดินทางและใช้จ่ายในชีวิตประจำวันสะดวกยิ่งขึ้น

อีกด้านหนึ่ง ยังมีเสียงสะท้อนเชิงลบราวร้อยละ 2 โดยเฉพาะปัญหาการลงทะเบียนร้านค้าที่หลายฝ่ายมองว่ายังซับซ้อนเกินไป ระบบแอปพลิเคชันล่าช้า และจำนวนร้านค้าที่เข้าร่วมในบางพื้นที่ยังไม่เพียงพอ ซึ่งอาจกระทบต่อการใช้สิทธิ์ในช่วงแรกของโครงการ

ขณะเดียวกัน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง รายงานว่า ตั้งแต่เวลา 6.00–12.30 น. มีประชาชนใช้จ่ายผ่านโครงการแล้วกว่า 2.49 ล้านราย รวมมูลค่าการใช้จ่ายกว่า 501.11 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 252.40 ล้านบาท และเงินร่วมจ่ายจากภาครัฐ 248.71 ล้านบาท

โครงการ "คนละครึ่งพลัส" ใช้งบประมาณรวม 44,000 ล้านบาท ครอบคลุมสิทธิ์ประชาชน 20 ล้านคน และร้านค้ากว่า 520,000 แห่งทั่วประเทศ โดยกำหนดสิทธิ์การใช้จ่ายแบบร่วมจ่ายร้อยละ 50 ไม่เกิน 200 บาทต่อวัน และจำกัดวงเงินสูงสุด 2,000–2,400 บาทตลอดโครงการ ซึ่งเปิดใช้งานระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคม 2568 ผ่านแอปเป๋าตัง

รัฐบาลเตรียมเปิดเฟสสองในเดือนมกราคมปีหน้า หลังจากเฟสแรกสิ้นสุด โดยตั้งเป้าว่า "คนละครึ่งพลัส" จะเป็นมาตรการสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี 2568 ให้เกิดการหมุนเวียนเงินในระบบและช่วยพยุงกำลังซื้อของประชาชนในช่วงค่าครองชีพสูงต่อเนื่อง