ผบ.ตร.ลั่นไม่แทรกแซงกิจการภายในเพื่อนบ้าน อยู่ไทยต้องเคารพกฎหมายไทย
ผบ.ตร.ลั่นไม่แทรกแซงกิจการภายในประเทศเพื่อนบ้าน ชี้อยู่ไทยต้องเคารพกฎหมายไทยอย่างเคร่งครัด ลั่นถ้าจำเป็นพร้อมจัดการด้วยความเด็ดขาด
เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กล่าวถึงการชุมนุมบริเวณหน้าสถานทูตเมียนมา ว่า เราต้องรักษากฎหมายเรา ความเห็นทางการเมืองเป็นเรื่องหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามอยู่ในประเทศไทยต้องปฏิบัติตามกฎ กติกา กฎหมายของบ้านเราโดยเคร่งครัด และนโยบายแห่งรัฐ ไม่มีนโยบายที่จะไปยุ่งเกี่ยวหรือแทรกแซงกิจการภายในของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นนโยบายที่เรายึดถืออยู่ เพราะฉะนั้นจะทำอะไรก็ขอให้นึกถึงกฎหมายระเบียบต่างๆ และอยู่กันด้วยความเรียบร้อย อย่างเมื่อวานนี้มีเหตุการณ์ที่ไม่ควรจะต้องเกิดขึ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พยายามบังคับใช้กฎหมาย แล้วพยายามที่จะทำให้ไม่เกิดความรุนแรง แต่อย่างที่ทราบมีตำรวจบาดเจ็บและต้องมีการจับกุม หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องอย่างนี้อีก เราพร้อมที่จะต้องจัดการด้วยความเด็ดขาด ถ้าจำเป็น
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นเท่าที่ทราบก็มีทั้ง 2 กลุ่ม ทั้งคนไทยและเมียนมา การใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญเราเข้าใจ แต่มีข้อจำกัดอยู่แล้ว โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค มีการออกประกาศตามกฎหมายพ.ร.ก.ฉุกเฉิน อยู่ ขอให้คำนึงถึงส่วนรวมเป็นหลัก พร้อมย้ำว่าไม่มีนโยบายไปยุ่งเกี่ยวหรือแทรกแซงกิจการภายในของประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนด้านการข่าวทางหน่วยความมั่นคงได้ติดตามอยู่แล้ว และพยายามใช้มาตรการที่เหมาะสม อย่างแนวชายแดนเป็นการปฏิบัติการร่วมฝ่ายความมั่นคงทั้งหมด ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง โดยตามแนวชายแดนได้ใช้มาตรการตามปกติ ซึ่งแนวชายแดนยังปกติอยู่ยังไม่มีอะไร แต่เฝ้าติดตามด้วยความห่วงใย พร้อมในการปฏิบัติ
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนการเข้าเมืองยังยึดถือกติกาเดิมอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดต้องมีการเข้ามากักตัว ซึ่งตอนนี้ด่านต่างๆ ได้ให้เข้ามาในเรื่องการขนส่งสินค้าในพื้นที่จำกัด และจำกัดการเข้ามาของคน ซึ่งยังยึดถือกติกานี้อยู่ สำหรับการเข้าเมืองผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ส่วนการออกมาเคลื่อนไหวของชาวเมียนมาในประเทศก็ต้องไปทำความเข้าใจ จริงๆ แล้วตนเชื่อว่าพี่น้องที่เป็นคนไทยและไม่ใช่ ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นแผ่นดินไทยต้องเข้าใจบทบาทเข้าใจกฎหมายอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้เราพยายามเข้าไปให้ใกล้ชิดชี้แจงทำความเข้าใจ เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาตามมา โดยพยายามใช้หลักการพูดคุยเจรจาเป็นหลัก แต่ถ้าจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายก็ต้องทำ
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการข่าวหรือไม่ที่มีแกนนำคนไทยเข้าไปยั่วยุให้คนเมียนมาก่อเหตุความวุ่นวาย ทางพล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ก็ติดตามอยู่ ใครทำอย่างนั้นก็ต้องเข้าไปดำเนินการ ถามต่อว่าระยะหลังการชุมนุมมีความรุนแรงมากขึ้นมีการปาระเบิดปิงปองได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่อย่างไร พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวด้วยว่า เป็นเรื่องที่ไม่สบายใจในการสืบสวนก็ติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิด ซึ่งคราวที่แล้วก็ได้จับกุมตัวไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่ในช่วงนี้ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ระมัดระวังการป้องกันภยันตรายที่จะเกิดกับวัตถุระเบิดพวกนี้
ถามต่อว่าเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้หรือไม่พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ทุกกรณีคนเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นเรื่องของการสืบสวนสอบสวน แต่ให้เห็นว่าคนเจ็บทั้งหมดมีเจ้าหน้าที่ กับผู้สื่อข่าวเท่านั้น