TFG ราคาหมู-ไก่ดีดตัว รุกสาขาค้าปลีกอัพยอด

#TFG #ทันหุ้น – TFG แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ยังทรงตัวอยู่ในทิศทางที่ดีใกล้เคียงไตรมาส 2/2568 โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกไก่ที่เร่งตัวขึ้น ธุรกิจหมูราคาเริ่มมีการฟื้นตัวขึ้นทั้งในไทยและเวียดนาม ธุรกิจค้าปลีกมีทิศทางการเติบโตที่ดี รวมถึงได้รับอานิสงส์จากมาตรการ “คนละครึ่ง” ขณะที่ธุรกิจอาหารสัตว์มีต้นทุนที่ลดลง มั่นใจผลงานปีนี้เข้าเป้าโต 15% ทำ All Time High
นายเพชร นันทวิสัย ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG ประกอบธุรกิจผลิตไก่และจำหน่ายไก่สด แช่เย็น จำหน่ายสุกร และจำหน่ายอาหารสัตว์ เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ยังอยู่ในทิศทางที่ดีใกล้เคียงกับไตรมาส 2/2568 และเติบโตขึ้นเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกับปีก่อน (YoY) เนื่องจากราคาเนื้อสัตว์ยังคงสูงโดยเฉพาะราคาไก่ที่ส่งออก รวมถึงราคาวัตถุดิบมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกมีส่วนช่วยในการเพิ่มอัตรากำไร
ทั้งนี้บริษัทมีธุรกิจรวมทั้งหมด 4 ธุรกิจ ได้แก่ 1.ธุรกิจไก่ เน้นการส่งออกไปที่ ญี่ปุ่น ยุโรป และจีน 2.ธุรกิจค้าปลีก ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่สร้างยอดขายสูงในธุรกิจค้าปลีกคือกลุ่ม ร้านอาหารรายย่อย (Street Food) ซึ่งพ่อค้าแม่ขายกลุ่มนี้เป็นลูกค้าประจำ ปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 40% ของพอร์ตทั้งหมด คาดการณ์ว่าธุรกิจเติบโตขึ้นอีกพอสมควรในปีหน้าประมาณ 20-30% อีกทั้งยังได้รับอานิสงส์จากมาตรการ “คนละครึ่ง” ที่จะส่งผลเชิงบวกต่อธุรกิจ โดยเฉพาะลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อย
@ราคาหมูเริ่มฟื้น
3.ธุรกิจหมู โดยสถานการณ์ราคาหมูในปัจจุบัน มีการย่อตัวลงตามปัจจัยฤดูกาล เช่น เป็นช่วงที่ฝนตกหนักและมีการบริโภคที่ลดลง แต่คาดว่าราคาหมูจะค่อยๆ ดีขึ้นในไตรมาสที่ 4 เนื่องจากรัฐบาลมีการกระตุ้นการบริโภคและเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ขณะที่ต้นทุนการเลี้ยงหมูสำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่ คาดว่าต้นทุนจะยังต่ำกว่าราคาขาย เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวลดลง
ในส่วนสถานการณ์ราคาหมูในเวียดนามราคาย่อตัวลงในช่วงไตรมาส 2/2568 จนถึงไตรมาส 3/2568 จากการระบาดของโรค แต่ขณะนี้สถานการณ์ในตลาดเริ่มสงบลง ประกอบกับฝนหยุดตกและเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูท่องเที่ยว ส่งผลให้ราคาหมูในเวียดนามปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมา คาดการณ์ว่าราคาจะดีขึ้นไปจนถึงปีหน้า
4.ธุรกิจอาหารสัตว์ ส่วนใหญ่ขายให้กับฟาร์มที่เป็นพันธมิตรที่เป็นอิสระ โดยขายทั้งอาหารสัตว์และพันธุ์สัตว์ ซึ่งได้รับประโยชน์จากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง หลังจากที่รัฐบาลปรับลดภาษีนำเข้าเมล็ดพืชซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะข้าวโพด มีแนวโน้มช่วยลดต้นทุนอาหารสัตว์เลี้ยงของบริษัทให้ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญในระยะกลาง – ยาว ล่าสุดบริษัทได้ทดลองนำเข้าถั่วเหลือง กากถั่วเหลืองจากสหรัฐอเมริกามาทดลองปรับส่วนผสมเลี้ยงสัตว์
@ผลงานเข้าเป้าโต 15%
อย่างไรก็ดีมั่นใจภาพรวมผลประกอบการในปี 2568 ของบริษัทยังเติบโตค่อนข้างดี และทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) เติบโตขึ้น 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 65,000 ล้านบาท หนุนจากปริมาณการส่งออกที่เร่งตัวขึ้นทั้งผลิตภัณฑ์เนื้อไก่สดแช่แข็งครอบคลุมภูมิภาคเอเชีย และการส่งออกผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ปรุงสุกแปรรูปไปยังทวีปยุโรปได้มากขึ้น รวมถึงความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากคู่ค้าในญี่ปุ่น
ปัจจุบันบริษัทกำลังการผลิตเนื้อไก่ทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 400,000 ตัน คาดว่าจะมียอดส่งออกเนื้อไก่ทั้งสุกและดิบในปีนี้ประมาณ 100,000 ตัน และส่วนที่เหลือจะขายผ่านช่องทางอื่น โดยเฉพาะ Thai Food Fresh Market ขณะที่ได้เตรียมวางแผนขายเนื้อหมูในเวียดนามเพิ่มขึ้นเป็น 150,000 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 50% จากเดิมที่มี 100,000 ตัน อีกทั้งยังได้ลุยขยายสาขาธุรกิจค้าปลีกในประเทศเพิ่มขึ้นอีกเป็น 630-650 สาขา เกินเป้าที่ตั้งไว้ 300 สาขา
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
