I2 ลุ้นผลประมูลงานพันล.  โดดรับรัฐลดใช้กระดาษ

#I2 #ทันหุ้น – I2 มองวงการไอที 4 เดือนท้ายคึกคัก หวังรัฐบาลใหม่เร่งดันงบกระตุ้น แย้มมีงานประมูลรอรู้ผลอีกกว่า 1 พันล้านบาท โดดรับนโยบายกระทรวจดิจิทัล หนุนหน่วยงานรัฐลดใช้กระดาษเข้าทางบริการ Document Management ย้ำเป้าปี 2568 โต 10-15%

                นายอธิพร  ลิ่มเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ หรือ I2 เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า ภาพรวมธุรกิจไอทีช่วงที่เหลือของปี 2568 น่าจะมีโอกาสมากขึ้่นเมื่อเทียบกับตลอดปีที่ผ่านมา ปัจจัยสนับสนุนสำคัญคือการเข้ารอยต่อช่วงสิ้นปีงบประมาณ และเป็นจุดเริ่มต้นของปีงบประมาณใหม่ อันจะส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐบาลจะให้เกิดลงทุนต่างๆ มากขึ้น

@ ลุยประมูลงานอื้อ

                สอดคล้องกับเป้าประสงค์รัฐบาลใหม่ ซึ่งประกาศเน้นเร่งรัดการอัดฉีดกระตุ้นระบบเศรษฐกิจสู่ประชาชน จึงเป็นที่คาดหวังการใช้งบประมาณจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วตลอดช่วงอายุรัฐบาลชุดปัจจุบันที่เคยระบุว่าจะอยู่ในตำแหน่ง 4 เดือน

                ดังนั้น หากรัฐบาลมาเร่งลงทุนเพิ่มขึ้น ย่อมหมายความว่าบริษัทน่าจะมีโอกาสเข้าประมูลมากขึ้นด้วย โดยบริษัทมีการเข้าประมูลงานที่จะทราบผลช่วงนี้เหลือของปีนี้กว่า 1,000 ล้านบาท และมั่นใจว่าคุณสมบัติเป็นไปตามเกณฑ์คัดสรร ส่วนตัวเลขงานในมือหรือ Backlog ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมและจะสรุปชัดเจนผ่านที่ประชุมคณะกรรมการหลังจากนี้ต่อไป

                นอกจากนี้ในแง่นโยบาย Digital Government ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ กระทรวงดีอี ซึ่งเน้นไปที่การผลักดันให้หน่วยงานรัฐบาล ปรับการทำงานมาเป็นรูปแบบ E-Document หรือ Paperless Office นั้น ถือว่าส่งประโยชน์ทางตรงกับธุรกิจของ I2 เนื่องจาก บริษัทดำเนินการงานบริการที่เรียกว่า Document Management อยู่แล้ว

                อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเพิ่งเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จึงต้องติดตามต่อไปว่า นโยบายใหม่ของรัฐบาลดิจิทัลจะออกมาส่งผลดีเพิ่มเติมต่อธุรกิจไอทีมากหรือน้อยเพียงใด

@ เป้าโต 10-15%

                สำหรับปี 2568 บริษัทมีเป้าหมายการเติบโต 10-15% ไปอยู่ที่ระดับ 1.5 พันล้านบาท พร้อมกับเดินหน้าสร้าง New S-Curve ร่วมกับพันธมิตรกลุ่มธุรกิจใหม่ที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและสร้างผลกำไรในระยะยาว

                ขณะเดียวกัน ได้ปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจจากเดิม 4 กลุ่ม เหลือเพียง 2 แกนหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และ 2. ธุรกิจด้านการจัดการและประหยัดพลังงาน โดยปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 70% และ 30% ตามลำดับ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการขยายธุรกิจ รวมถึงเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยแบ่งแต่ละกลุ่มธุรกิจให้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ในอนาคตสามารถบริหารจัดการได้อย่างเต็มที่

                อีกทั้งบริษัทวางแผนพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ให้ความสำคัญด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยบริษัทได้รับประกาศนียบัตรเครื่องหมายรับรองคาร์บอนฟุตพรินต์ขององค์กรจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. นับเป็นอีกพลังขับเคลื่อนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ