รีเซต

ครม.สั่ง“ค่ายมือถือ-แบงก์“ร่วมรับผิดชอบความเสียหายแก่ลูกค้าจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ครม.สั่ง“ค่ายมือถือ-แบงก์“ร่วมรับผิดชอบความเสียหายแก่ลูกค้าจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ทันหุ้น
28 มกราคม 2568 ( 14:01 )
22

 

ครม.สั่ง“เครือข่ายมือถือ-แบงก์“ร่วมรับผิดชอบความเสียหายแก่ลูกค้าจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยอนุมัติแก้ไขพ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มอำนาจให้หน่วยงานกำหนดโทษและการคืนเงิน คาดประกาศใช้เร็วสุดเดือนก.พ.นี้

 

#ทันหุ้น นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติการแก้ไขพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กำหนดให้สถาบันการเงินและเครือข่ายมือถือต้องร่วมรับผิดชอบความเสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วย คาดว่า สามารถประกาศใช้ได้ภายในกุมภาพันธ์นี้

 

“ครม.เห็นชอบ ตามที่กระทรวงดีอีเสนอในการแก้ไขพระราชกำหนดดังกล่าว โดยมีเหตุผลเป็นเรื่องเร่งด่วน โดย ... ฉบับเดิมปี 2566 ยังขาดอำนาจหน้าที่และการกำหนดโทษหลาย ประเด็นโดยเฉพาะอำนาจการดำเนินการกับบัญชีม้าบนแพลตฟอร์ม P2P, อำนาจการคืนเงินให้กับประชาชน, และการรับผิดร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด

 

ทั้งนี้ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ชี้จงในครม.ว่า หาก ครม.พิจารณาแล้วเห็นว่าการกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นกรณีฉุกเฉิน ที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ และเพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความปลอดภัยสาธารณะและความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ ย่อมสามารถพิจารณาอนุมัติหลักการร่าง ...

 

โดยร่างพ.ร.ก.ดังกล่าวจะส่งผลให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รับร่าง ...ไปพิจารณาปรับรูปแบบ โดยให้รับความเห็นหน่วยงานไปประกอบการพิจารณา

 

สำหรับร่าง ... ฉบับนี้ หลัครม. เห็นชอบ และมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วจะมีผลบังคับใช้ทันที ซึ่งเลขาธิการกฤษฎีกา ระบุจะใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน คาดว่า ประกาศบังคับใช้ได้ในเดือนกุมภาพันธ์ หรือเดือนหน้านี้

 

... ฉบับนี้ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรืออาชญากรรมไซเบอร์ในรูปแบบต่าง ประกอบกัน เนื่องจากกฎหมายนี้เป็นหนึ่งในมาตรการดำเนินการอีกทั้งยังมีมาตรการอื่นอีก เช่น การทำงานร่วมกับต่างประเทศในการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีฐานที่ตั้งบริเวณชายแดน ถือเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน

 

ทั้งนี้ ในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัลครั้งล่าสุดได้นำเสนอเรื่องนี้เป็นรายงานในที่ประชุม ซึ่งทุกประเทศก็เห็นพ้องในการยกระดับร่วมกันและถือว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การหลอกลวงในโซเชียล เป็นภัยที่ทุกประเทศต้องตระหนัก จึงต้องทำงานร่วมกัน

ตั้งแต่เดือน ..2566- ..2567มีจำนวนคดีออนไลน์รวม 402,542 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวม 42,662 ล้านบาท

 

สำหรับสาระสำคัญของ ร่างแก้ไข พรก.ดังกล่าว มี 4 ประการ คือ

1. ห้ามการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์ม Peer-to-Peer Lending (P2P)โดยห้ามให้บริการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทคริปโทเคอร์เรนซีโทเคนดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ในทางพาณิชย์ และให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลมีหน้าที่ปฏิเสธการเปิดบัญชีและระงับการให้บริการหรือการทำธุรกรรมกับ ลูกค้าที่มีรายชื่อหรือใช้กระเป้าสินทรัพย์ดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ลดปัญหาการฟอกเงินโดยนำมาเปลี่ยนเป็นเงินสกุลดิจิทัล)

 

2. ให้ สนง.กสทช. หรือผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือมีหน้าที่สั่งระงับการให้บริการเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์มือถือเป็นการชั่วคราวเมื่อพบเหตุอันควรสงสัย

3. ให้สถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ผู้ให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องหรือสื่อสังคมออนไลน์มีส่วนรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหาย ที่ถูกหลอกลวงจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหากหน่วยงานดังกล่าวไม่ได้ใช้ความระมัดระวังที่พึงปฏิบัติในวิชาชีพ

 

4. ให้อำนาจแก่คณะกรรมการธุรกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเป็นผู้พิจารณาคืนเงินให้แก่ผู้เสียหาย โดยไม่ต้องรอให้มีการยื่นฟ้องคดีต่อศาลเพื่อพิจารณามีคำสั่งถึงที่สุดก่อน

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง