รีเซต

รู้จัก PTSD ภาวะความเครียดเรื้อรังหลังเกิดเหตุสะเทือนใจ

รู้จัก PTSD ภาวะความเครียดเรื้อรังหลังเกิดเหตุสะเทือนใจ
TNN ช่อง16
9 กรกฎาคม 2568 ( 12:10 )
7

PTSD คืออะไร?

PTSD (Post-Traumatic Stress Disorder) หรือ โรคเครียดภายหลังเผชิญเหตุการณ์สะเทือนขวัญ คือภาวะความเครียดเรื้อรังที่เกิดขึ้นหลังจากเผชิญเหตุการณ์ที่รุนแรงหรือคุกคามชีวิต โดยผู้ป่วยจะมีอาการหวาดกลัว วิตกกังวล และระลึกถึงเหตุการณ์นั้นซ้ำ ๆ แม้เวลาจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม ภาวะนี้ไม่ใช่เรื่องของ “คนอ่อนแอ” หากแต่เป็นปฏิกิริยาทางจิตใจและสมองที่ตอบสนองต่อความเครียดอย่างรุนแรง


อาการของ PTSD ที่ควรสังเกต

PTSD มีอาการหลากหลาย แบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่:

1.การย้อนนึกถึงเหตุการณ์ซ้ำ (Intrusion symptoms)

  • ฝันร้ายเกี่ยวกับเหตุการณ์
  • มีภาพเหตุการณ์นั้นผุดขึ้นมาในหัวโดยไม่ตั้งใจ
  • เหมือนอยู่ในเหตุการณ์เดิมอีกครั้ง เช่น มีอารมณ์ตกใจ หัวใจเต้นแรง

2.การหลีกเลี่ยง (Avoidance)

  • หลีกเลี่ยงสถานที่ คน หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์
  • หลีกเลี่ยงการพูดหรือคิดถึงเหตุการณ์นั้น

3.การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และความคิด

  • รู้สึกโทษตัวเอง รู้สึกไร้ค่า หรือไม่ไว้ใจใคร
  • อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย หรือซึมเศร้า
  • ขาดความสนใจในสิ่งที่เคยชอบ

4.อาการตื่นตัวเกินปกติ (Hyperarousal)

  • นอนไม่หลับ หวาดระแวง
  • สะดุ้งตกใจง่าย
  • สมาธิสั้น หรือมีพฤติกรรมก้าวร้าว

อาการเหล่านี้ต้องเกิดต่อเนื่องอย่างน้อย 1 เดือน และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน จึงจะถือว่าเข้าเกณฑ์ PTSD อย่างแท้จริง

ใครบ้างเสี่ยงเป็น PTSD?

แม้ทุกคนสามารถเป็น PTSD ได้หลังเหตุการณ์รุนแรง แต่ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นในกรณีที่:

  • มีประวัติเคยเจอเหตุการณ์สะเทือนใจในอดีต
  • ขาดการสนับสนุนจากครอบครัวหรือสังคม
  • มีประวัติป่วยทางจิต เช่น โรคซึมเศร้า หรือวิตกกังวล
  • อยู่ในวิชาชีพที่เผชิญความรุนแรง เช่น ทหาร ตำรวจ กู้ภัย แพทย์ฉุกเฉิน

รักษาได้หรือไม่?

PTSD เป็นภาวะที่รักษาได้ โดยแนวทางหลักประกอบด้วย:

  • การบำบัดทางจิต เช่น Cognitive Behavioral Therapy (CBT) และ EMDR
  • การใช้ยา เช่น ยาต้านซึมเศร้าบางชนิด เพื่อลดอาการวิตกกังวลหรือหลับยาก
  • การสนับสนุนทางสังคม จากครอบครัว เพื่อน หรือกลุ่มช่วยเหลือผู้มีประสบการณ์เดียวกัน
  • สิ่งสำคัญคือการไม่ปิดกั้นตัวเอง หากสงสัยว่าอาจมีอาการของ PTSD ควรพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาโดยเร็ว เพราะยิ่งได้รับการดูแลเร็ว โอกาสฟื้นตัวก็ยิ่งสูง

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง