"บีโอไอ"ชู 5 จุดเด่นไทยดึงลงทุนต่างชาติ

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยในงานเสวนาโต๊ะกลม “กรุงเทพธุรกิจ Roundtable: The Art of (Re)Deal” ว่า การประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ซึ่งประเทศไทยถูกกำหนดเพดานอัตราภาษีไว้ที่ร้อยละ 36 ทำให้เกิดการชะลอการตัดสินใจลงทุน
นอกจากนี้ยังมีภาษีการส่งผ่านสินค้า (Transhipment) และภาษีรายสินค้าตามมาตรา 232 ซึ่งเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงภายใต้กฎหมาย Trade Expansion Act โดยปัจจุบันมีการประกาศแล้วในอลูมิเนียม ทองแดง รถยนต์ และชิ้นส่วนสำคัญบางชิ้น รวมถึงคอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ที่ปัจจุบันได้รับการยกเว้น แต่ในอนาคตไม่แน่นอน ซึ่งอาจทำให้ผู้ประกอบการหรือนักลงทุนตัดสินใจว่าจะไปตั้งฐานการผลิตในสหรัฐแทนได้
รวมถึงมาตรการจำกัดการส่งออกชิปเอไอ (AI) ซึ่งจะมีผลกระทบกับการลงทุน ดาต้า เซ็นเตอร์ และการพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขัน AI ของไทย
อย่างไรก็ตาม นายนฤตม์ ประเมินว่า อัตราภาษีไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่จะมีผลกับการตัดสินใจลงทุน แต่มี 5 เรื่องหลักที่สำคัญที่ไทยมีความได้เปรียบในภูมิภาค ได้แก่
1.โครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็น น้ำ ไฟ ท่าเรือ สนามบิน และนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งประเทศไทยได้เปรียบมากในภูมิภาค
2.ด้านซัพพลายเชนโดยเฉพาะอุสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า
3.ด้านบุคลากร ไม่ว่าจะเป็นแรงงานฝีมือ วิศวกร ช่างเทคนิค ซึ่งไทยสู้ได้ รวมถึงยังมี
4.ความร่วมมือกับต่างประเทศด้วย ด้านสิทธิประโยชน์ และมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ
5.การเข้าถึงตลาด (market access) โดยไทยมีตลาดในประเทศขนาดใหญ่เกือบ 70 ล้านคน มีเขตการค้าเสรี (FTA) 11 ฉบับ กับ 24 ประเทศ และยังมีอีกหลายฉบับที่อยู่ระหว่างการเจรจา
ทั้งนี้ 5 ปัจจัย ดังกล่าวจะเป็นส่วนที่เข้ามาส่งเสริมให้เกิดการตัดสินใจลงทุน ประกอบกับ หากผลการเจรจาอัตราภาษี receipt tariff ใกล้เคียงกับประเทศอื่นในภูมิภาค ประเทศไทยจะยังคงเป็นแหล่งดึงดูดการลงทุนที่มีความโดดเด่น
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
