ที่สุดแห่งปี 2025 "ภาษีทรัมป์" กระแทกไทย จุดเปลี่ยน "การค้าโลก"

วันที่ 2 เมษายน 2025 คือ วันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำของสหรัฐฯ ได้ลงนามและประกาศนโยบาย“ภาษีตอบโต้” หรือ reciprocal tariffs เป็นการขึ้นภาษีชุดใหญ่ต่อคู่ค้าทั่วโลกอย่างเป็นทางการ ซึ่งฝ่ายสหรัฐฯ เรียกวันดังกล่าวว่า วันปลดปล่อย หรือวันปลดแอก “Liberation Day”
ประธานาธิบดีทรัมป์ อ้างว่าเป้าหมายหลักของภาษี คือ การแก้ไขปัญหาการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้าหลายประเทศทั่วโลก ภายใต้นโยบายนี้ สหรัฐฯ เริ่มจากกำหนดอัตราภาษีนำเข้าพื้นฐานในอัตรา 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากเกือบทุกประเทศ แต่ที่แรงที่สุด คือ การเพิ่มอัตราภาษีเฉพาะแต่ละประเทศแต่ละกลุ่มสำหรับคู่ค้าที่สหรัฐฯ มีการขาดดุลการค้าในระดับสูง
และปรากฎว่าประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะไทยเราเป็นหนึ่งในประเทศที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าติดอันดับท้อปและต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วันแรกของประกาศ ประเทศไทยถูกกำหนดอัตราภาษีตอบโต้ในระดับสูงถึง 36% และเป็นตัวเลขที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของหลายประเทศในอาเซียนอย่างมีนัยสำคัญ
แรงกระแทกก้อนแรก คือ ความเชื่อมั่น ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจในไทยปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่าผู้ประกอบการบางส่วนเริ่มชะลอการลงทุนใหม่และทบทวนแผนการขยายตลาด โดยเฉพาะธุรกิจที่มีสัดส่วนรายได้จากสหรัฐฯ ในระดับสูง
สาเหตุเป็นเพราะว่าการขึ้นภาษีนำเข้าครั้งนี้มีผลกระทบโดยตรงภาคการส่งออกของไทย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานยนต์ ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง รวมถึงสินค้าเกษตรแปรรูปบางประเภท ภาคเอกชนจำนวนมากประเมินตรงกันว่า หากอัตราภาษีดังกล่าวมีผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบ จะส่งผลให้ต้นทุนสินค้าส่งออกของไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก และลดความสามารถในการแข่งขันเมื่อเทียบกับคู่แข่งจากประเทศอื่น
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
