รีเซต

BCHรายได้ปีนี้1.3หมื่นล. ผู้ป่วยใน-ต่างชาติยอดพุ่ง

BCHรายได้ปีนี้1.3หมื่นล. ผู้ป่วยใน-ต่างชาติยอดพุ่ง
ทันหุ้น
20 มีนาคม 2566 ( 14:15 )
100
BCHรายได้ปีนี้1.3หมื่นล. ผู้ป่วยใน-ต่างชาติยอดพุ่ง

#BCH #ทันหุ้น – BCHกางแผนอัพรายได้ปีนี้แตะ 1.3 หมื่นล้านบาท ยอดผู้ป่วยใน-ต่างชาติ-ประกันสังคมเพิ่มขึ้น ลุยเจาะฐานรักษาโรคเฉพาะทาง – ศูนย์ IVF ศัลยกรรมความงาม และสุขภาพครบวงจร ทุ่มงบ 1.5 พันล้านบาท เดินหน้าลงทุน 2 โรงพยาบาลต่อเนื่อง ทั้งยังปรับปรุง – เพิ่มประสิทธิภาพการรักษา ด้านนักวิเคราะห์ แนะ “ซื้อ” เป้า 23.60 บาท

 

ศ.ดร. นพ. เฉลิม หาญพาณิชย์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกเชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมทั้งปี 2566 ที่ราว 1.3 หมื่นล้านบาท หนุนจาก 1.การเพิ่มขึ้นของผู้เข้ารับการรักษาทั้งผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD), 2.ฐานคนไข้ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจาก และซาอุดีอาระเบียภูมิภาคตะวันออกกลาง, 3.การร่วมลงนาม (MOU) กับหน่วยงานต่างๆ ทั้งรัฐ เอกชน เข้าให้บริการตรวจสุขภาพพนักงาน, 4.การเพิ่มสัดส่วนคนไข้ประกันสังคม รวมถึงการพิจารณาเพิ่มวงเงินเบิกจ่ายรายหัวของรัฐบาล

 

“ปัจจุบันกลุ่มโรงพยาบาลมีคนไข้ประกันสังคม รวมกันกว่า 1.5 ล้านราย และบางโรงพยาบาลยังมีศักยภาพที่จะรับคนไข้เพิ่มได้อีก เพราะยังไม่เต็ม 1.9 แสนราย พร้อมกันนี้ยังต้องติดตามผลการพิจารณาการปรับเพิ่มวงเงินเบิกจ่ายของผู้ประกันตนแบบ Fixed Capitation ขึ้น 8-10% จาก 1,640 บาทต่อรายต่อเดือน ซึ่งก็จะเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มบริษัทได้อย่างมีนัยสำคัญ”

 

*เจาะลูกค้าเฉพาะทาง

และ 5.การเพิ่มโรงพยาบาล และศูนย์รักษาโรคเฉพาะทางอาทิ ศูนย์ IVF, ศูนย์รักษาโรคเบาหวาน, โรงพยาบาลโรคมะเร็ง, ศูนย์ศัลยกรรม และความงาม ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มบริษัทเปิดให้บริการศูนย์ศัลยกรรมความงาม “พูจอง คลินิก” ทั้งในไทย และสปป.ลาว ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก จึงอยู่ระหว่างพิจารณาขยายสาขาทั้ง 2 ประเทศ

 

“การขยายสาขาขึ้นอยู่กับความพร้อมของทีมแพทย์ รวมถึงหากในอนาคตมีกฎห้ามสถานพยาบาล – สถานเสริมความงามที่ไม่มีเตียงรองรับการผ่าตัด ไม่ให้รับผ่าตัดใหญ่ ผู้ประกอบการเหล่านี้ก็ต้องมา  Synergy กับศูนย์ของกลุ่มบริษัท ก็จะยิ่งเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มบริษัทอย่างต่อเนื่อง ส่วน “พูจอง คลินิก” ใน สปป.ลาวเบื้องต้นตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ราว 10 ล้านบาทต่อเดือนซึ่งเป็นเป้ารายได้ที่ไม่สูงเกินไป ส่วนการประกันความเสี่ยงทางอัตราแลกเปลี่ยนนั้น กลุ่มบริษัทจะคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินบาท กับสกุลเงินกีบทุกวัน และประกาศค่าใช้จ่ายเป็นรายวันเพื่อรักษาศักยภาพการทำกำไรขั้นต้นเอาไว้”

 

*เล็งเปิดรพ.ใหม่

พร้อมกันนี้กลุ่มบริษัทยังมีแผนก่อสร้างโรงพยาบาลเพิ่มเติมทั้งในประเทศ มุ่งเน้นในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทั้งในจังหวัดฉะเชิงเทรา, ชลบุรี ซึ่งมีแผนก่อสร้างโรงพยาบาลในพื้นที่พัทยากลาง มุ่งเน้นรองรับคนไข้ทั่วไป และคนไข้ต่างประเทศ, และระยองมีแผนก่อสร้างโรงพยาบาล 2 แห่ง 1.แห่งจะเข้าร่วมโครงการ PPP ภาครัฐ มุ่งเจาะกลุ่มผู้ประกันตน และศูนย์รับส่งต่อในพื้นที่ อ.ปลวกแดง และอีก 1 แห่งเพื่อรองรับคนไข้ทั่วไป และคนไข้ต่างชาติ

 

“การจะขยายโรงพยาบาลออกไปนั้น กลุ่มบริษัทได้วางแผนไว้แล้วว่าต้องการรองรับคนไข้กลุ่มไหน ที่พัทยาต้องการเจาะกลุ่มคนไข้กระแสเงินสดและต่างชาติ ส่วนที่ระยองจะมุ่งเน้นทั้งขยายฐานคนไข้ประกันสังคม คนไข้เงินสด และต่างชาติ”

 

สำหรับงบประมาณการลงทุนทั้งปี 2566 คาดว่าจะอยู่ที่ราว 1.5 พันล้านบาท แบ่งเป็น 1.การลงทุนต่อเนื่องตามแผนการสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ Kasemrad Ari Cancer Center เป็น โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้กับ WMC และรองรับคนไข้กลุ่มมะเรง็ทั้งกลุ่มเงินสดและกลุ่มประกันสังคม

 

และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สุวรรณภูมิขนาด 268 เตียง ที่คาดว่าจะ สามารถเริ่มให้บริการได้ช่วงปี 2570, 2.การปรับปรุงและเพิ่มศักยภาพการรักษา-ให้บริการ โรงพยาบาลปัจจุบันประกอบด้วย โรงพยาบาลเกษมราษฎร์  เกษมราษฎร์อินเตอร์, เวิล์ดเมดิคอล, และโรงพยาบาลการุณเวช

 

*แนะซื้อเป้า 23.60 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ คาดรายได้และกำไรปี 2566 ของ BCH จะมาจากการเติบโตของกลุ่ม คนไข้ต่างชาติ โดยมีกลุ่มลูกค้าใหม่ที่จะมาเพิ่มฐานรายได้ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย, ลิเบีย และ CLMV พร้อมกับฐานคนไข้ประกันสังคมที่ทะลุ 1.0 ล้านราย โดยปัจจุบันมีจำนวนผู้ประกันตนในระบบเพียง 67% ของโคตา (Quota) ที่ทั้งเครือโรงพยาบาลจะเปิดรับได้ เบื้องต้นคาดการณ์รายได้ทั้งปี 2566 ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 2.03 พันล้านบาท แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 23.60 บาท

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง