รีเซต

หัวเว่ย (Huawei) พร้อมช่วยดันไทยเป็นศูนย์กลางดิจิทัลและ AI ของอาเซียน ภายในปี 2027 นี้

หัวเว่ย (Huawei) พร้อมช่วยดันไทยเป็นศูนย์กลางดิจิทัลและ AI ของอาเซียน ภายในปี 2027 นี้
TNN ช่อง16
4 มิถุนายน 2568 ( 17:01 )
17

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) เน้นย้ำวิสัยทัศน์ผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น “ศูนย์กลางด้านดิจิทัลและ AI ของอาเซียน” ภายในปี 2027 ในงาน Huawei Thailand Digital & AI Summit 2025 โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน ทั้งผู้นำจากภาครัฐ ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก และนักวิชาการ เพื่อร่วมกำหนดทิศทางอนาคตของเศรษฐกิจดิจิทัลไทย

ภาพรวมงาน Huawei Thailand Digital & AI Summit

งาน Huawei Thailand Digital & AI Summit 2025 จัดขึ้นเพื่อได้เปิดตัวโซลูชัน AI รุ่นใหม่ล่าสุดของหัวเว่ยและเปิดเวทีให้พันธมิตรในระบบนิเวศมากกว่า 40 ราย ร่วมจัดแสดงนวัตกรรม AI และดิจิทัลในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ภาครัฐ การเงิน การศึกษา และค้าปลีก พร้อมเปิดตัวชุมชนเทคโนโลยีใหม่ 3 กลุ่ม ได้แก่ IP Club, OptiX Club และ OceanClub เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ของวิศวกรไทย

โดยภายในงาน หัวเว่ยได้เปิดตัวโซลูชัน AI รุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัท ซึ่งประกอบด้วย

  1. AI-native Cloud Infrastructure ที่รองรับการประมวลผลแบบตามต้องการ
  2. AI-ready Data Infrastructure ที่รวมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์อย่างครบวงจร
  3. AI Connectivity ที่เชื่อมโยงข้อมูลและระบบได้อย่างไร้รอยต่อ
  4. โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) เช่น Pangu LLM และ DeepSeek ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมไทย
  5. โซลูชัน Digital Power ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัย และมีเสถียรภาพ
  6. แอปพลิเคชัน AI สำหรับผู้บริโภค ครัวเรือน และองค์กรธุรกิจ

แกนกลางพัฒนา AI ของรัฐบาลไทย

ในขณะเดียวกัน ภายในงานยังมีการเสวนาและแสดงความร่วมมือในการผลักดัน AI ใต้การสนับสนุนจากภาครัฐ ที่มียุทธศาสตร์ดิจิทัล 3 แกนหลัก ของรัฐบาล ได้แก่

  1. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้แข็งแกร่ง ด้วยนโยบายการใช้คลาวด์เป็นหลัก (Cloud First), การยกระดับบริการภาครัฐ และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทั่วประเทศ
  2. สร้างความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน
  3. พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านดิจิทัล ด้วยการยกระดับทักษะประชาชน 10 ล้านคน ฝึกอบรมบุคลากรดิจิทัล 90,000 คน และสร้างนักพัฒนา AI 50,000 คน ภายใน 2 ปี

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) กล่าวภายในงานว่า “เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว คาดว่าจะขยายตัว 7.3% ในปี 2025 ภายใต้นโยบาย Growth Engine of Thailand เรามุ่งเสริมศักยภาพทางดิจิทัลของประเทศ ควบคู่กับการสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัย และพัฒนาบุคลากรดิจิทัลที่มีทักษะสูง ซึ่งความร่วมมือกับพันธมิตรอย่างหัวเว่ยจะช่วยวางรากฐานที่มั่นคงให้กับทุกภาคส่วนของสังคมไทย”

การพัฒนา AI ของภาคการศึกษาไทย

และเพื่อพัฒนาตามแนวทางของรัฐ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ร่วมมือกับหัวเว่ย เพื่อผลักดันระบบนิเวศนวัตกรรม AI และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างยั่งยืน โดยความร่วมมือนี้ครอบคลุมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ICT การออกแบบหลักสูตรร่วมด้าน AI, Cloud, Big Data, IoT และ Digital Leadership รวมถึงการสนับสนุนการปรับเปลี่ยนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสู่ Smart Campus อย่างเต็มรูปแบบในอนาคต

ความร่วมมือครั้งนี้ จะใช้ประโยชน์จาก 4 เสาหลักของ Huawei ASEAN Academy (Thailand) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรอย่างรอบด้าน ได้แก่ 

  1. Business School for Leaders เสริมสร้างความเป็นผู้นำดิจิทัลให้กับผู้บริหารในอนาคต 
  2. Technical School for Creators ฝึกฝนทักษะด้าน AI, Cloud และเทคโนโลยีเกิดใหม่ 
  3. Engineer School for Practitioners ยกระดับความสามารถเชิงปฏิบัติสำหรับวิศวกร  
  4. Digital Inclusion for Users ส่งเสริมการเข้าถึงและการรู้เท่าทันดิจิทัลในวงกว้าง

ภาพรวมเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย

หัวเว่ยระบุว่า มูลค่าการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลโดยภาครัฐและเอกชนภายในปี 2027 จะมีมูลค่ารวมกว่า 500,000 ล้านบาท และทางบริษัทเชื่อว่าไทยมีศักยภาพในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำแห่งเศรษฐกิจดิจิทัลและ AI ในภูมิภาคอาเซียน

นายเดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “AI มาถึงในช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและอัจฉริยะไทย ในอีก 5 ปี ข้างหน้า เศรษฐกิจดิจิทัลคาดว่าจะเติบโตเร็วกว่า GDP ถึง 3 เท่า การผสานเทคโนโลยี 5G คลาวด์ และ AI เข้าด้วยกัน ช่วยให้แม้แต่ธุรกิจขนาดเล็ก เช่น เกษตรกร ก็สามารถนำเครื่องมืออย่างอวาตาร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาใช้ในการขายสินค้าออนไลน์และไลฟ์สดได้”

นายวิลเลียม ตง ประธานฝ่ายการตลาดของหัวเว่ย คลาวด์ (Huawei Cloud) มองว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้กลายเป็นกลไกขับเคลื่อนหลักของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีระดับโลก โดยมีคลาวด์เป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเข้าถึง AI อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม การลงมือทำทันที คือ กุญแจสำคัญในการคว้าโอกาสจาก AI ภายใต้กลยุทธ์ที่ชัดเจน Huawei Cloud พร้อมสนับสนุนประเทศไทยในการก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลาง AI แห่งอาเซียน ด้วยความมุ่งมั่นในการตอบสนองความต้องการเฉพาะด้าน และการพัฒนาบุคลากรในประเทศอย่างต่อเนื่อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง