สบน.หวั่น“เอส แอนด์ พี”ปรับลดมุมมองไทยตามฟิทช์-มูดีส์

#ทันหุ้น สบน.หวั่น“เอส แอนด์ พี”ปรับลดมุมมองไทยตามฟิทช์-มูดีส์ หลังไทยเผชิญความเสี่ยงพื้นที่การคลังลดปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจโตช้า 

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินระดับโลก เอสแอนด์ พี โกบอล เรทติงส์ ได้หารือกับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เพื่อติดตามข้อมูล สำหรับใช้ประเมินความน่าเชื่อถือของประเทศไทยในรอบปี 68 ที่จะมีการประกาศในเดือนพ.ย.นี้ ซึ่งทางสบน.ได้ชี้แจงถึงนโยบายการคลังของไทยว่า รัฐบาลชุดใหม่ให้ความสำคัญต่อการดูแลความเสี่ยงทางการคลัง การแก้ปัญหาขาดดุล และการใช้งบประมาณอย่างจริงจัง

“ในการประชุมครั้งนี้ มีตัวแทนจากหลายหน่วยงานเข้าร่วม โดยสบน. ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแผนการบริหารหนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และให้ภาพรวมเกี่ยวกับเศรษฐกิจมหภาคของประเทศ ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทยได้ชี้แจงเกี่ยวกับการบริหารนโยบายการเงิน ขณะที่ สภาพัฒน์  ให้รายละเอียดเกี่ยวกับปัจจัยการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งหลังจากได้รับข้อมูลแล้วทาง เอสแอนด์พี จะประมวลผลและประกาศผลการพิจารณาในเดือนพ.ย.“

ทั้งนี้ เอสแอนด์พี ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับทิศทางการให้คะแนนเครดิตไทยที่คล้ายคลึงกันกับ  2 สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือก่อนหน้านี้ ทั้งฟิทช์ เรทติงส์ และมูดีส์ เรทติงส์  โดยเฉพาะสถานการณ์ทางการเมือง และพื้นที่ทางการคลังที่เหลือน้อย รวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เชื่องช้าเมื่อเทียบกับภูมิภาค 

แหล่งข่าวกล่าวว่า หาก เอสแอนด์พี โกบอล เรทติงส์ ปรับลดมุมมองไทยลดลง จากระดับมีเสถียรภาพเป็นเชิงลบ เช่นเดียวกันกับ ฟิทช์ เรทติงส์  และ มูดีส์ เรทติงส์ ก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ แต่เชื่อว่าไม่ได้สร้างความตกใจให้กับตลาด เพราะตั้งแต่ มูดีส์ เรทติงส์  ที่เคยปรับลดมุมมองไทยเป็นครั้งรายแรกเมื่อเดือนเม.ย.ก็ ไม่ได้มีผลต่อความเชื่อมั่นต่อตลาดทุน หรือตลาดพันธบัตรไทยแต่อย่างใด”

ทั้งนี้ สิ่งที่น่าจับตามองที่สุด คือ การพิจารณาผลการจัดอันดับเครดิตของทั้ง 3 สถาบันที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า เพราะหลังจาก มีการปรับมุมมองในปีนี้แล้วต่อไปในปี 69 ก็จะถึงรอบใหญ่ที่มีการตัดเกรดและประกาศอันดับเครดิตของประเทศว่าจะมีการปรับลดเครดิตหรือปรับมุมมองใหม่หรือไม่

อย่างไรก็ตาม การปรับลดมุมมองในปีนี้ มีลักษณะเหมือนสัญญาณเตือน ไม่ได้หมายความว่าจำเป็นต้องมีการลดเครดิตความน่าเชื่อถือ เพราะที่ผ่านมาไทยก็เคยถูกปรับมุมมองเป็นเชิงลบมาแล้ว แต่ต่อมาเมื่อสามารถแก้ไขข้อกังวลต่างๆ ได้ ก็ได้รับการปรับมุมมองกลับมาอยู่ระดับมีเสถียรภาพ โดยไม่จะเป็นต้องลดเครดิตแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 ก.ย.68 ที่ผ่านมา สำหรับ ฟิทช์ เรทติงส์ ได้ปรับมุมมองแนวโน้มของอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ ของประเทศไทยจากมีเสถียรภาพ เป็นเชิงลบ แต่ยังคงยืนยันอันดับเครดิตที่ บีบีบี+ เช่นเดียวกับ มูดีส์ เรทติงส์ ก็มีปรับลดมุมมองไทย เป็นเชิงลบเช่นกัน เมื่อปลายเดือนเม.ย.68 ที่ผ่านมา