BCP แผนทะยานเท่าตัว รุกสำรวจเลิกหวัง OCA

#BCP #ทันหุ้น - BCP ประกาศปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ เปิดเกมรุกดัน EBITDA เพิ่มขึ้น 100% แตะ 80,000 ล้านบาท ปี 2571 พร้อมปลดล็อกทุกการเติบโตในอนาคต เอาใจผุ้ถือหุ้นปันผลสูง-ซื้อคืนหุ้นต่อเนื่อง 3 ปี รับคุมการซื้อการหุ้นไม่ได้ แต่บางจากยังเป็นของคนไทย บอร์ดมีธรรมาภิบาล เดินหน้าธุรกิจสำรวจต่อเนื่อง ชี้มีโอกาสอยู่ แม้จะเลิกหวังลงทุนแหล่งทับซ้อน ไทย-กัมพูชา
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากได้มีการปรับโครงสร้างในการดำเนินธุรกิจใหม่ โดยมีแผนปลดล็อกโอกาสในการลงทุนทั้งหมด ทั้งการลงทุนในธุรกิจต้นน้ำ อย่างการสำรวจและผลิตปิโตรเลี่ยม โดยที่ผ่านมาได้มีการร่วมกับ นอร์เวย์ รวมถึง เซฟรอน โดยมองว่า โอกาสในการลงทุนธุรกิจขุดและสำรวจยังมีสูง ทั้งในแหล่ง G2 ของไทย รวมถึงแหล่งอื่นๆ ของมาเลเซีย ซึ่งบริษัทได้ผู้ที่บริหารที่มาจากเซฟรอน อย่างไรก็ตามยอมรับโอกาสในการลงทุนในแหล่งทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา หรือ OCA ไม่มีแล้ว จากสถานการณ์ปัจจุบัน
ส่วนประเด็นด้านผู้ถือหุ้นที่มีความเกี่ยวโยงกับกัมพูชานั้น บริษัทไม่สามารถที่จะควบคุมได้ เพราะตลาดหุ้นเปิดโอกาสในการซื้อขายหมด แต่ในเชิงของการบริหารนั้นยืนยันว่า ทั้งผู้บริหาร และคณะกรรมการของบริษัทมีธรรมภิบาล ในการที่จะดำเนินการใดๆ ซึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทก็ยังมีประกันสังคม และกองทุนวายุภักษ์ กระทรวงการคลัง รวมกันถือหุ้นใหญ่อยู่
ทั้งนี้ บางจาก จะดำเนินการเร่งเครื่อง กลยุทธ์ Bangchak 100x มุ่งเน้นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทน โดยตั้งเป้าผลตอบแทนจากการลงทุนมากกว่า 15% และจะรักษาความเป็นผู้นำด้านอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (Top Tier TSR) ซึ่งตลอด 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับสูงกว่าคู่แข่ง และพร้อมผลักดันให้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงโมเลกุลสะอาด
@ดัน EBITDA โต 100%
บริษัทตั้งยุทธศาสตร์หลัก 4 ด้าน คือ
1. การตั้งเป้าหมายใหม่ที่ท้าทาย มุ่งผลักดันให้ EBITDA เติบโตเพิ่มขึ้น 100% ภายในปี 2571
2. การขับเคลื่อนสู่ความมั่นคงทางพลังงานและความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทน ธุรกิจต้นน้ำระยะกลาง ตลอดจนพลังงานไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานใหม่
3. การยกระดับศักยภาพธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไร ผ่านการปรับโครงสร้างธุรกิจ
4. การสร้างคุณค่าแก่ผู้ถือหุ้นผ่านโครงการซื้อหุ้นคืน (Share Buyback) 3 ปี เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผู้ถือหุ้นเสริมความเชื่อมั่นต่อศักยภาพการเติบโต
“บริษัทจะปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว โดยมุ่งเน้นการสร้าง Synergy ระหว่างหน่วยธุรกิจให้เกิดประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจโรงกลั่น การตลาด และพลังงานชีวภาพ ควบคู่กับการเร่งกลไกการเติบโตใหม่ผ่านธุรกิจการค้าน้ำมันและธุรกิจต้นน้ำ การปรับบทบาท BCPG ให้ก้าวสู่การเป็นผู้ดำเนินธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ รวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีแห่งอนาคตผ่านกองทุน CVC มูลค่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อวางรากฐานให้องค์กรก้าวนำการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ”
@ ปรับโครงสร้าง 5 กลุ่มธุรกิจ
นายชัยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า โครงสร้างธุรกิจใหม่จะแบ่งเป็น 5 กลุ่มหลัก ได้แก่
1.กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการตลาด และพลังงานชีวภาพ โดยจะเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน ขยายกำลังการกลั่นรวมจาก 265,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2568 เป็น 285,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2571 และมากกว่า 290,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2573 ควบคู่กับการลงทุนใน SAF และ HVO (Hydrotreated Vegetable Oil) รวม 7,000 บาร์เรลต่อวัน ภายในปี 2570 ในด้านพลังงานชีวภาพ เดินหน้าขยายกำลังการผลิตเอทานอลเป็น 292 ล้านลิตรต่อปีตั้งแต่ปี 2569 และเพิ่มประสิทธิภาพการเดินเครื่องโรงงานไบโอดีเซลสู่กำลังการผลิตเต็มที่ 330 ล้านลิตรต่อปี เสริมสร้างซินเนอร์ยีระหว่างหน่วยธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น มุ่งขยายสถานีบริการเป็นราว 2,300 แห่งในปี 2568 ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดน้ำมันจาก 29% ในปี 2568 เป็นมากกว่า 33% ในปี 2573 ควบคู่กับการผลักดันธุรกิจ Non-Oil ทั้งอินทนิลและค้าปลีก โดยตั้งเป้าให้ EBITDA ของธุรกิจนี้เติบโต 3 เท่าภายในปี 2571
2. กลุ่มธุรกิจการค้าน้ำมัน กลุ่มธุรกิจหลักใหม่ ยกระดับจากบทบาทเดิมในการสนับสนุนโรงกลั่น สู่การเป็นธุรกิจหลักที่สร้างผลตอบแทน โดยมุ่งพัฒนาการซื้อขายพลังงานแบบมีสินทรัพย์รองรับ
3. กลุ่มธุรกิจต้นน้ำ ตั้งเป้าเป็นผู้ดำเนินธุรกิจแหล่งปิโตรเลียมระยะกลางชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
4. กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐาน ต่อยอดพลังงานหมุนเวียนสู่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานยุทธศาสตร์ ดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ และธุรกิจรีไซเคิลแบตเตอรี่ โดยตั้งเป้าเพิ่ม EBITDA เป็น 7,000 ล้านบาท ภายในปี 2571
5. กลุ่มธุรกิจใหม่และโฮลดิ้งส์ โดยจะลงทุน 30 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเตรียมพร้อมสู่อนาคต ทั้ง Bio-LNG, Nuclear Fusion, กรีนแอมโมเนีย และเชื้อเพลิงสังเคราะห์ ตลอดจนเทคโนโลยีชีวภาพและระบบแบตเตอรี เพื่อเสริมพลังให้ธุรกิจหลัก ขยายโอกาสใหม่ และสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับกลุ่มบริษัทบางจาก
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
