AUCT ตรอ. บูมฐานใหม่อื้อ มั่นต.ค. รถยึดเข้าลานพรึ่บ

#AUCT #ทันหุ้น – AUCT มองเห็นสัญญาณบวกหลังเปิดศูนย์ ตรอ. กระแสตอบรับดี พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ผ่านการเป็นพันธมิตรกับบริษัทไฟแนนซ์ เล็งเปิดแห่งที่ 2 พฤศจิกายน นี้ ส่งซิกปริมาณรถยึดเดือนหน้าเพิ่ม หลังมาตรการช่วยลูกหนี้สิ้นสุด ล่าสุดวีไอขอเข้าเยี่ยมชมกิจการ

                 นายสุธี  สมาธิ  กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AUCT เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า หลังจากที่เปิด ศูนย์ตรวจสอบสภาพรถยนต์ (ตรอ.) ครบวงจร สาขา “รังสิต-คลอง 8” เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาถือว่ากระแสตอบรับดีแม้ว่าในช่วงเดือนแรกอาจมีข้อติดขัดอยู่บ้าง แต่ปัจจุบันธุรกิจเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว ทั้งในส่วนของลูกค้าภายในและลูกค้าภายนอก

@ รุกขยายฐานใหม่

                ทั้งนี้บริษัทได้เดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ผ่านการเป็นพันธมิตรกับบริษัทไฟแนนซ์ โดยได้มีการร่วมทำผลิตภัณฑ์กับพาร์ตเนอร์ไฟแนนซ์ เพื่อขายโปรดักต์เพิ่มเติม รวมถึงการขายประกัน, พ.ร.บ., สินเชื่อ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ให้กับลูกค้าข้างนอกที่เข้ามาใช้บริการ การดำเนินงานนี้เปรียบเสมือนการมีสาขาของตนเอง และเป็นสาขาให้พาร์ตเนอร์ไฟแนนซ์ในการขายโปรดักต์ด้วย เป้าหมายคือการผลักดันให้ประชาชนรับรู้ว่า “ทุกเรื่องรถ มาจบที่สหประมูล”

                นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเปิดสาขาใหม่ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ บริเวณสำนักงานใหญ่ ซึ่งคาดการณ์ว่าสาขาใหม่นี้จะมีดีมานด์สูงกว่าสาขาเดิม โดยเฉพาะจากลูกค้ารถไฟแนนซ์และลูกค้าภายนอก ปัจจุบันบริษัทได้เริ่มรันธุรกิจและมีประสบการณ์จากการดำเนินงานเดิม ทำให้ทราบทิศทางในการบริหารจัดการ

 @ หมดโครงการรถยึดเพิ่ม
                ในประเด็นด้านหนี้เสีย (NPL) และการยึดรถ บริษัทประเมินว่า หลังจากโครงการ “คุณสู้เราช่วย” ที่จะสิ้นสุดในเดือนกันยายน สถานการณ์การรับประโยชน์จะเริ่มดีขึ้น โดยมองว่าหากไม่มีโครงการช่วยเหลือเข้ามาต่อภาคอีก ลูกหนี้จะต้องกลับไปสู่สภาวะความเป็นจริงในการชำระหนี้ด้วยความสามารถของตนเอง

“สถานการณ์นี้คล้ายกับช่วงที่มาตรการพักชำระหนี้ในช่วงโควิดหมดลง ซึ่งจะเริ่มเห็นผลเป็นระยะ และรถจะเข้าสู่กระบวนการติดตามหนี้และยึดรถมากขึ้นเรื่อยๆ”

                ขณะที่ปัจจุบัน NPL ในตลาดเพิ่มขึ้นจากกว่า 700,000 ราย เป็น 860,000 ราย อย่างไรก็ตาม แม้ NPL จะสูงขึ้น แต่ปริมาณรถยึดกลับลดลง ซึ่งมองว่า “ไม่ปกติ” นอกจากนี้ ตัวเลข DR (การปรับโครงสร้างหนี้ ก่อนที่จะเป็น NPL) ก็เพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดิมที่ไม่มีการปรับ เป็นกว่า 300,000 ราย

@ ผลงานทรงตัว

สำหรับผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมายังคง “ทรงตัวอยู่” เนื่องจากการมีตัวเลขที่กดดันอยู่ แต่คาดการณ์ว่าหากปัจจัยกดดันต่างๆ คลายตัวลง ธุรกิจน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติของความเป็นจริงได้ ซึ่งหมายถึงปริมาณรถยึดที่น่าจะเข้าสู่ระบบมากขึ้นตามปกติ

                ด้านทิศทางตลาด รถ EV มีแนวโน้มขยับขึ้นมา แต่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ และจำนวนยังไม่เป็นนัยสำคัญ ถึงกระนั้น ราคารถ EV ก็สร้างความปั่นป่วนให้กับราคาของรถยนต์สันดาบด้วย ซึ่งราคารถ EV มือสองนั้นไม่ค่อยดีนัก สาเหตุมาจากความไม่มั่นใจและความไม่แน่ใจในตลาด รวมถึงความกังวลว่าผู้ผลิตจะลดราคาอีก และปัจจัยสำคัญคือไม่มีไฟแนนซ์ไหนเข้ามารองรับในการจัดรถ EV ทำให้ราคาของรถมือสอง EV อาจจะไม่ดีมากนัก

                ส่วนตลาดรถจักรยานยนต์ปัจจุบันเริ่มมีทิศทางเชิงบวกมากกว่ารถยนต์ แม้โดยปกติจำนวนรถยนต์ที่ขายจะมากกว่า (60:40) แต่ตอนนี้ยอดขายและยอดรับรถมอเตอร์ไซค์เข้ามาขายมีทิศทางดีขึ้น และเหนือกว่ารถยนต์เล็กน้อย

                ล่าสุด มีกลุ่มนักลงทุน VI (Value Investor) ประมาณ 30 กว่าท่าน เข้ามาเยี่ยมชม และหารือ รวมถึงขอข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ และตัวเลขต่างๆ ของบริษัท

Top of Form

Bottom of Form