นายกฯหนุนตลาดหุ้นไทย คลังเร่งคลอดโครงการTISA

#นายกฯ #เฟทโก้ #ทันหุ้น – นายกฯ พร้อมหนุนตลาดทุน “เพิ่มสภาพคล่อง-สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน” หวังดัชนีหุ้นไทยพุ่งขึ้นเรื่อยๆ   ด้านรมว.คลัง ลั่น TISA เป็นโครงการน่าสนใจ เชื่อทำได้เร็ว ด้านเฟทโก้ เสนอมาตรการ Quick-Big Win ผ่าน 4 มาตรการหลัก ด้านประธานตลท.มอง หากรัฐบาลเดินหน้าแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเอื้อความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ดันจีดีพีโตได้ทันที 0.89% เอกชนประหยัดต้นทุนรวม 1.34 แสนล้านบาท

วานนี้ (25 ก.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล  นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยทีมเศรษฐกิจ  นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ (รมว.) คลัง, นางศุภจี สุธรรมพันธ์ รมว. พาณิชย์ และนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รมว. พลังงาน และนายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช. คลัง เดินทางมาหารือร่วมกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ในการรับ “ข้อเสนอจากตลาดทุน เพื่อเสริมพลังภาครัฐ” ที่ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

@นายกฯ หนุนตลาดทุน

นายอนุทิน กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อหาความร่วมมือได้มากพอสมควรที่จะนำไปร่วมมือกันเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และสร้างความเข้มแข็งให้กับตลาดหุ้นไทย  โดยเรื่องที่หารือเป็นเรื่องการเพิ่มสภาพคล่องในตลาดทุน  สร้างความเชื่อมั่นต่อนโยบายภาครัฐให้กับนักลงทุน ในการพัฒนาเครื่องยนต์เศรษฐกิจยุคใหม่ ด้วยกลไกของตลาดทุน และเพิ่มสภาพคล่องระยะยาวในตลาดหุ้นไทย

โดยจะมีการหารือกันต่อไประหว่างภาครัฐและตลาดทุนเพื่อให้ดำเนินการขับเคลื่อนให้เร็วที่สุด ทั้งการแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคซึ่งจะต้องใช้ความกล้าหาญในการตัดสินใจ หรือ กิโยตินกฎหมาย ทั้งนี้เพื่อเป็นการที่จะทำให้ตลาดหลักทรัพย์ของไทยที่เป็นตัวชี้วัดด่านแรกในการแสดงความมั่งคั่งของประเทศให้ได้รับความเชื่อมันจากทั้งนักลงทุนไทยและต่างประเทศ

@หวัง SET พุ่ง

สำหรับในเรื่องการแก้ไขกฎหมายด้านตลาดทุนนั้น  ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ไม่มีเวลาเพียงพอ โดยรัฐบาลจะใช้เวลา 4 เดือนที่มีอย่างเต็มที่ สิ่งใดที่สามารถทำได้ก็จะเร่งทำ เพราะมีคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความเข้มแข็งและสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและวางรากฐานอนาคตของตลาดทุนไทยของระบบเศรษฐกิจไทยในระยะยาว

นายอนุทิน  กล่าวว่า รัฐบาลมีความหวังและสนับสนุนให้ตลาดหุ้นไทยพุ่งขึ้นเรื่อยๆ  เพราะมีทีมงานที่ดี การลงทุนในตลาดทุนเมื่อนักลงทุน มีความเชื่อมั่นต่อทีมเศรษฐกิจในรัฐบาลชุดนี้ ทำให้สามารถคาดการณ์สถานการณ์ในระยะข้างหน้าได้ทำให้การลงทุนมี ก็สามารถดึงความมั่นใจกลับมาสู่ตลาดทุนไทย

 ส่วนประเด็นเรื่องเงินทุนสีเทาในตลาดทุนนั้น ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว อาทิ ปปง.และ ก.ล.ต. และอาศัยความสัมพันธ์อันดีกับผู้บริหารหน่วยงานด้านความมั่นคงต่างๆ ประสานงานให้เป็นไปอย่างราบรื่น เพื่อป้องกันและปราบปรามปัญหาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายไม่ให้ระบบเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของประเทศไทยต้องถูกทำลาย

@คลังพร้อมหนุน TISA

นายเอกนิติ  กล่าวว่า  จากที่ทางเฟทโก้ เสนอให้กระทรวงการคลังสนับสนุนในเรื่องของการทำโครงการ TISA (Thailand Individual Savings Account) เป็นหุ้นโครงการที่ทางกระทรวงการคลังสนใจ และน่าจะสามารถทำได้เร็ว ส่วนเรื่องวงเงิน และสิทธิประโยชน์ทางภาษีนั้น ก็จะต้องมีการหารือในเรื่องรายละเอียดอีกครั้ง

@เสนอ Quick-Big Win  

ดร.กอบศักดิ์  ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า สภาธุรกิจตลาดทุนไทยในฐานะผู้แทนภาคเอกชนในตลาดทุนไทย พร้อมสนับสนุนรัฐบาลในการขับเคลื่อนตลาดทุนเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่น พื้นฟูเศรษฐกิจ และวางอนาคตระยะยาวให้กับประเทศไทย โดยได้เสนอมาตรการ Quick-Big Win  ผ่าน 4 ข้อเสนอหลัก  คือ 1.เสริมสร้างความเชื่อมั่นในนโยบายภาครัฐ โดยจัดตั้งทีมงานร่วมระหว่างภาครัฐและภาคตลาดทุนเพื่อสื่อสาร Thailand Story โดยเฉพาะโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC แก่นักลงทุนในประเทศและนักลงทุนต่างชาติ และเตรียมความพร้อมสำหรับการจัด Country Roadshow ให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

2.พัฒนาเครื่องยนต์เศรษฐกิจยุคใหม่ (New Economic Driver) ด้วยกลไกตลาดทุน ผ่านการจูงใจบริษัทที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และโครงการ EEC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เหมือนหุ้น 7 นางฟ้าของตลาดหุ้นในสหรัฐ   3.เพิ่มสภาพคล่องระยะยาวในตลาดทุนไทย ยกเว้นภาษีเงินปันผลสำหรับการลงทุนระยะยาว สนับสนุนการลงทุนใน Thai ESG Scheme แบบถาวร และเพิ่มแรงจูงใจในการดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบันในต่างประเทศประเทศให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย

4.สู่อนาคตไทยที่ยั่งยืน Upskill-Reskill แรงงานไทย ผ่าน e-Learning ขับเคลื่อนโดยตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทจดทะเบียน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย รวมถึงการเอาจริงเอาจังในการปราบปรามการหลอกลวงการลงทุน ซึ่งที่ผ่านมีเป็นล้านเคส โดยเป็นเคสเพื่อสภาพแวดล้อมทางการเงินที่ปลอดภัยสำหรับประชาชน และแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นภาระ อุปสรรค (Regulatory Guillotine) หรือ กิโยตินกฎหมาย

“โดยหากทีมรัฐบาลเดินหน้าตามแผนได้ดี เชื่อว่าจะทำให้นักลงทุนสถาบันต่างชาติเชื่อมั่น และทำให้ดัชนีหุ้นไทยพลิกเป็นขาขึ้นได้”

@ลดอุปสรรคธุรกิจดันจีดีพีโต 0.89%

ศ.พิเศษกิติพงศ์  อุรพีพัฒนพงศ์  ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า  ในเรื่องการผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจผ่าน โครงการ Regulatory Guillotine เช่นลดขั้นตอนการขอใบอนุญาตต่างๆ การต่อใบอนุญาต ซึ่งหากสามารถทำได้จะทำให้ช่วยประหยัดต้นทุนการดำเนินธุรกิจของภาคธุรกิจได้  1.34 แสนล้านบาท และช่วยทำให้จีดีพีของไทย เติบโต 0.89%