แรงขายทำกำไรฉุดดาวโจนส์ นักลงทุนชะลอเก็งกำไร จับตาเงินเฟ้อ PCE

#ทันหุ้น-ดัชนี Dow Jones ปิดลบต่อเนื่องเป็นวันที่สองจากแรงขายทำกำไร แม้ว่าดัชนียังเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยนักลงทุนมีความระมัดระวังหลังเจอโรม พาวเวลล์ เตือนว่าราคาหุ้นสหรัฐ อยู่ในระดับสูงเกินไป ทั้งนี้ ตลาดกำลังจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสำคัญอย่างดัชนี PCE ที่จะประกาศคืนวันศุกร์นี้เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยในระยะต่อไป ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดระบุว่า ยอดขายบ้านใหม่ในเดือนส.ค. 2568 พุ่งขึ้น 20.5% สู่ 800,000 ยูนิต สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ม.ค. 2565 ปัจจัยดังกล่าวสะท้อนว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีแรงขับเคลื่อน แม้สภาพแวดล้อมทางการเงินตึงตัว

สำหรับตลาดหุ้นยุโรปปิดผสมผสานกัน โดยดัชนี CAC-40 ของฝรั่งเศสปิดที่ 7,827.45 จุด ลดลง 44.57 จุด (-0.57%), ดัชนี DAX ของเยอรมนีปิดที่ 23,666.81 จุด เพิ่มขึ้น 55.48 จุด (+0.23%), ดัชนี FTSE 100 ลอนดอนปิดที่ 9,250.43 จุด เพิ่มขึ้น 27.11 จุด (+0.29%) และดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 553.88 จุด ลดลง 1.07 จุด (-0.19%)

เมื่อดูหุ้นแต่ละกลุ่มพบว่า หุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานพุ่งขึ้น 1.8% หลังราคาทองแดงแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ซึ่งหนุนให้หุ้นกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้น 1.5% นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มกลาโหมปรับตัวขึ้น 3 - 8% หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาเชื่อว่ายูเครนจะสามารถยึดคืนดินแดนทั้งหมดที่ถูกรัสเซียยึดครอง และควรเร่งดำเนินการ อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราร่วงลงกดดันตลาด 1.5% และหุ้นกลุ่ม Healthcare ก็ลดลงเช่นกันที่ 0.6%

          สำหรับตลาดหุ้นเอเชียเช้าวันพฤหัสบดีเปิดในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ตามรอยการอ่อนตัวของตลาดหุ้นสหรัฐ เมื่อคืน โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายหลังพาวเวลล์แสดงความกังวลต่อมูลค่าหุ้น ขณะเดียวกันยังไม่มีสัญญาณชัดเจนเรื่องนโยบายดอกเบี้ย นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามการเริ่มซื้อขายหุ้น CHERY (Chery Automobile) ที่เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงวันนี้ (25 ก.ย. 2568) เป็นวันแรก

          สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสเคลื่อนไหวแบบ Sideway ในกรอบอยู่ อย่างไรก็ตาม มองว่ามีปัจจัยบวกจากการหารือระหว่างคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ซึ่งช่วยสร้างความหวังต่อนโยบายกระตุ้นตลาดทุน ขณะเดียวกัน ข้อมูลการส่งออกเดือนส.ค. ที่กระทรวงพาณิชย์รายงานพบว่าขยายตัวเพียง 5.8% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 7% และขาดดุลการค้า 1.9 พันล้านดอลลาร์ ส่งสัญญาณว่า ภาคส่งออกเริ่มชะลอตัวจากผลของมาตรการภาษีใหม่ อย่างไรก็ตาม จุดแข็งด้านดุลบัญชีเดินสะพัดที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี และหนี้ต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นสกุลบาท ช่วยลดความเสี่ยงด้านการเงินในภาพรวม

สำหรับมุมมอง SET50 Index indicators 3 ตัวระบุดังนี้ Comfirm Up/Down (ภาพหมายเลข 2) แสดงถึงแนวโน้มตลาดว่ามีโอกาสขึ้นหรือลง วันนี้ยังคงมีทิศทาง