STECONจับมือEASTW ปูทางคว้างานใหญ่ดาต้า

#STECON #EASTW #ทันหุ้น – STECON จับมือ EASTW ขายน้ำให้ BDC ใช้ในโครงการ Data Center ชลบุรี ปริมาณสูงสุด 3.3 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี เริ่มพฤษภาคม 2569 นักวิเคราะห์มองผลกระทบกำไรระยะสั้นยังน้อย แต่เสริมกลยุทธ์ระยะยาวและสร้างฐานรายได้ประจำ รองรับการขยายธุรกิจ Data Center ในอนาคต พร้อมแนะนำเก็งกำไร รอจังหวะราคาหุ้นย่อตัว
บริษัท อีสท์วอเตอร์ สเตคอน ยูทิลิตี้ส์ จำกัด หรือ EWS ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัทสเตคอน พาวเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON กับ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EASTW ประกาศลงนามสัญญาซื้อขายน้ำอุตสาหกรรมให้แก่ บริษัท บริดจ์ ดาต้า เซ็นเตอร์ ไอไอไอ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ BDC ผู้ประกอบการศูนย์ข้อมูล (Data Center) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงการดาต้า เซ็นเตอร์ ขนาด Hyperscale ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี โดยมีอายุสัญญา 10 ปี ปริมาณความต้องการใช้น้ำสูงสุด 3.30 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี กำหนดเริ่มรับน้ำในเดือนพฤษภาคม 2569 เป็นต้นไป
อนึ่ง โครงสร้างผู้ถือหุ้นประกอบด้วย บริษัท สเตคอน เพาเวอร์ จำกัด ถือหุ้น 40% และ EASTW ถือหุ้น 60%
*มั่นใจศักยภาพบริหาร
นายสัมพันธ์ ชนะบูรณาศักดิ์ กรรมการ STECON Power เปิดเผยว่า EWS คือการผสานความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมของ STECON Power ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทของ STECON Group เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการน้ำของ EASTW เพื่อร่วมกันตอบสนองความต้องการใหม่ของอุตสาหกรรม Data Center ซึ่งต้องการน้ำที่มีคุณภาพสูง ต่อเนื่องและยั่งยืน
และความไว้วางใจจาก BDC ให้การดำเนินการพัฒนาระบบน้ำโครงการดาต้า เซ็นเตอร์ ขนาด Hyperscale ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพการบริหารจัดการน้ำ ที่สำคัญยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันสร้างระบบนิเวศที่ครบวงจรยั่งยืน และร่วมพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศรองรับการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมด้าน Data Center ในอนาคต รวมถึงสร้างรากฐานให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Digital Hub ของภูมิภาคได้ต่อไป
*หวังผลระยะยาว
นายภูวดล ภูสอดเงิน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า การร่วมทุนระหว่าง STECON กับ EASTW ถือเป็นผลดีระยะยาวในแง่การเปลี่ยนแปลงไปสู่ธุรกิจที่มีความรายได้ประจำมากขึ้น มีการสร้างฐานรายได้ในธุรกิจที่ STECON ไม่เคยดำเนินการธุรกิจสาธารณูปโภคด้านน้ำในลักษณะเดียวกันนี้มาก่อน ทว่าได้ใช้ความเชี่ยวชาญจากพันธมิตรส่งเสริมต่อยอดศักยภาพซึ่งกันและกันเป็นโอกาสขยายฐานลูกค้าได้มากในอนาคตโดยเฉพาะลูกค้าขนาดใหญ่ระดับ Hyper Scaler
อย่างไรก็ตามหากพิเคราะห์แค่ระยะสั้น เนื่องจากโครงการจะเริ่มต้นราวกลางปี 2569 ดังนั้น ผลต่อการดำเนินงานจึงยังน้อยมาก ขณะนี้จึงยังไม่ได้ให้มูลค่าเพิ่มต่อราคาหุ้น ซึ่งต้องรอดูความสามารถบริหารกำไรบรรทัดสุดท้ายที่ชัดเจนในอนาคตประกอบด้วย แต่ในระยะถัดๆ ไปโครงการน่าจะเริ่มมีนัยเมื่อมีลูกค้ารายอื่นเข้ามาเพิ่มเติม
ในขณะเดียวกัน STECON มีประเด็นความเสียหายโครงการถนนสามเสน ระยะหน้าโรงพยาบาลวชิระทรุดตัว ที่ยังต้องติดตามว่า ค่าประกันจะครอบคลุมความเสียหายมากหรือน้อยเพียงใด และกลายเป็นส่วนต่างที่จะกระทบกับงบการเงินหรือไม่ ดังนั้นคำแนะนำการลงทุนใช้ให้น้ำหนักเพียง เก็งกำไร รอซื้อในจังหวะราคาหุ้นย่อตัวแรง
*รองรับการขยายธุรกิจ
นายกฤตวิทย์ รัตนะกนกชัย ผู้จัดการนักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า การร่วมมือครั้งนี้ไม่ค่อยมีนัยยะสำคัญต่อผลประกอบการของ STEC ในระยะสั้น เนื่องจากการดำเนินการจะเริ่มกลางปีหน้า และจากข้อมูลปัจจุบัน ประมาณการรายได้เบื้องต้นของกิจการร่วมค้า (JV) อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาทต่อปี ธุรกิจน้ำโดยปกติจะมีอัตรากำไรสุทธิ 5-10% ซึ่งหากคิดเฉพาะส่วนแบ่งที่ STECON จะรับรู้จริงตามการถือหุ้นแล้ว ถือเป็นส่วนแบ่งกำไรเข้ามาประมาณ 2 - 4 ล้านบาทต่อปี
สำหรับผลดีที่แท้จริงกลับเป็นเชิงกลยุทธ์และการปูฐานในระยะยาว การร่วมมือครั้งนี้ทำหน้าที่เป็นเหมือน Infrastructure เตรียมการรองรับการขยายธุรกิจ Data Center ในอนาคตของบริษัทซึ่งน่าจะมีการต่อยอดระหว่างกันอีก ทั้งนี้คำแนะนำสำหรับหุ้น STECON ยังคงให้เก็งกำไร ขณะที่บทวิเคราะห์ หยวนต้า ระบุราคาเชิงพื้นฐานไว้ที่ 8 บาท
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
