THAIขยายเส้นทางบินจีน ดันพอร์ตรายได้แตะ20%

#THAI #ทันหุ้น – THAI เดินหน้าเปิดตลาดจีนฤดูหนาวปี 2568 เพิ่มความถี่เส้นทางกว่างโจว–ปักกิ่ง เป็น Daily Flight พร้อมรีเทิร์นเซี่ยเหมิน-ฉงชิ่ง-ฉางซา และเปิดใหม่อู่ฮั่น–เซินเจิ้น หนุนรายได้เส้นทางจีนแตะ 20% ของรายได้รวมปี 2569 จากเดิม 5% เล็งเสริมเส้นทางอินเดีย–กายา ปลายปีนี้ เตรียมรับมอบเครื่องบินใหม่ 3 ลำ ในปี 2568 และอีก 9 ลำ ในปี 2571 รองรับดีมานด์ท่องเที่ยวโลกโตต่อเนื่อง

นายชาย  เอี่ยมศิริ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า ในตารางบินฤดูหนาว (Winter Schedule) ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568-31 มีนาคม 2569 นี้ การบินไทยเตรียมแผนการเปิดตลาดเข้าสู่ประเทศจีนทั้งการเพิ่มความถี่เส้นทางบิน (Root) ที่มีศักยภาพประกอบด้วย สุวรรณภูมิ-กว่างโจว และสุวรรณภูมิ-ปักกิ่งเป็น Daily Flight หรือทำการบิน 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากปัจจุบันที่ทำการบิน 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

พร้อมกันนี้ การบินไทยจะทยอยกลับมาเปิดเส้นทางบิน (Return) เข้าสู่เมืองสำคัญที่เคยให้บริการ เช่น เซี่ยเหมิน, ฉงชิ่ง, และฉางซา ควบคู่การเปิดเส้นทางบินใหม่เข้าสู่เมืองที่มีศักยภาพ อาทิ อู่ฮั่น และเซินเจิ้น โดยจะเริ่มให้ทำการบิน 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์  เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร เบื้องต้นคาดว่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้จากเส้นทางบินจีนขึ้นแตะราว 20% ของรายได้รวมภายในปี 2569 จากปัจจุบันอยู่ที่ราว 5% ของรายได้รวม

“จีนเป็นตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพและมีโอกาสมหาศาล และทั้ง 10 เมืองที่การบินไทยเปิดจุดบินล้วนเป็นเมืองหลักของแต่ละมณฑล และมีประชากรไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคนการเพิ่มเส้นทางการบินสู่จีนของการบินไทยเป็นกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์เรื่องของ Network Strategy ได้ชัดเจนที่สุด เพราะวันนี้คนจีนโดยเฉพาะนักธุรกิจ กลุ่มที่มีกำลังซื้อนิยมเดินทางไปยุโรปและออสเตรเลีย ปัจจุบันผู้โดยสารจากจีนของการบินไทยราว 90% เป็นผู้โดยสารต่อเครื่อง ขณะเดียวกันก็มีผู้โดยสารหลากหลายสัญชาติที่ต้องการเดินทางเข้า-ออกจีน ฉะนั้นการเปิดเส้นทางจีนไม่ได้หมายความว่าการบินไทยขนแค่คนจีนเข้าประเทศไทยเท่านั้น แต่การบินไทยขนคนจีนเชื่อมต่อไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลก และขนคนยุโรป ออสเตรเลีย ฯลฯ เข้าจีนโดยใช้ไทยเป็นศูนย์กลาง”

*เล็งเพิ่มเส้นทางบินใหม่

พร้อมกันนี้ การบินไทยอยู่ระหว่างศึกษาแผนการเพิ่มเส้นทางบิน เส้นทางอื่นในเอเชียโดยเฉพาะประเทศอินเดีย ซึ่งกำลังได้รับความนิยมโดยเฉพาะเมืองกายา (Gaya) รัฐพิหาร (Bihar) ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นเมืองสำคัญทางพุทธศาสนาอยู่ใกล้กับ “พุทธคยา” ก็อยู่ในแผนเพิ่มความถี่เที่ยวบินเพื่อรองรับฤดูการท่องเที่ยวปลายปี 2568 เช่นกัน

“ภาพรวมการท่องเที่ยวไทยว่ายังคงเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงและมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการเดินทางทั่วโลกยังคงแข็งแกร่ง โดยโจทย์สำคัญคือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ การบินไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติ จึงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการที่สมดุล ทั้งในด้านฝูงบิน และการสร้างความประทับใจในการให้บริการ”

สำหรับการเตรียมความพร้อมด้านฝูงบินเพื่อรองรับการขยายเส้นทางและเพิ่มความถี่เที่ยวบิน การบินไทยมีแผน

รับมอบเครื่องบินใหม่ จำนวน 3 ลำในปี 2568 และมีแผนทยอยจัดหา และรับมอบเครื่องบินทั้งลำตัวแคบและลำตัวกว้าง อีก 9 ลำในปี 2571 เพื่อเสริมฝูงบินรองรับการเชื่อมต่อผู้โดยสาร (Connecting Flight) ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดรับกับความต้องการของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

*ซื้อเก็งกำไรเป้า 14 บาท

 บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุ THAI ยังคงควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบการขยายเส้นทางบินเพิ่มขึ้น YoY ที่ผ่านมา สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2568 ยังมีแนวโน้มเติบโต YoY แม้จะเติบโตเมื่อเทียบ QoQ จากช่วงโลว์ซีซัน จึงพิจารณาปรับประมาณการกำไรปกติปี 2568 – 2570 ขึ้นปีละ 5-9% เป็น 3.09 หมื่นล้านบาท, 3.13 หมื่นล้านบาท และ 3.26 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ

หนุนจาก 1.ปรับคาดการณ์ GPM ขึ้นจาก 23.9-25.1% เป็น 24.3-26.1% สะท้อนการควบคุมต้นทุนที่ดีกว่าคาดโดยเฉพาะต้นทุนซ่อมบำ รุงเครื่องบินและค่าใช้จ่ายด้านพนักงาน 2.ปรับสมมติฐาน Load Factor ขึ้นจาก 77.9-78.5% เป็น 78.0-79.5% ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์เครือข่ายการบินที่ช่วยให้บริษัทมีจำนวนผู้โดยสารมากขึ้น และ 3.ปรับ SG&A/Sales ลงจาก 5.0-5.2% เป็น 4.9-5.0% คงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” อิงราคาเหมาะสมณสิ้นปี 2569  ที่ 14 บาท