พอล แอดกินส์ ย้ำเข้ม สืบผลประโยชน์ทับซ้อนคริปโทฯ ไม่ละเว้นใคร

#PaulAtkins #ทันหุ้น - ข้อมูลจาก The Block ได้ระบุว่า พอล แอดกินส์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (U.S. Securities and Exchange Commission - SEC) ได้กล่าวตอบคำถามเกี่ยวกับประเด็น ผลประโยชน์ทับซ้อน เนื่องจากความเกี่ยวข้องของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และครอบครัวกับคริปโตเคอร์เรนซียังคงเป็นที่น่ากังวล

เมื่อวันพฤหัสบดี แอดกินส์ถูกนักศึกษาคนหนึ่งสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อนในวงการคริปโต ระหว่างการประชุมที่จัดขึ้นโดยศูนย์ Psaros Center for Financial Markets and Policy แห่งมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์

แอดกินส์ตอบว่า "ถ้ามีผลประโยชน์ทับซ้อน เราก็จะพยายามขุดรากถอนโคนมัน แล้ววางมาตรฐานลงไป"

บริษัทคริปโต World Liberty Financial (WLF) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกในครอบครัวทรัมป์บางคน กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังจากการ สืบสวนของ The New York Times พบว่ารัฐบาลทรัมป์มีส่วนเกี่ยวข้องในสองดีลที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันอย่างรวดเร็ว ได้แก่ ดีลระหว่าง WLF กับการอนุมัติส่งชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขั้นสูงจำนวนหลายพันตัวไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

NYT รายงานว่า บริษัทลงทุน MGX ที่ก่อตั้งใน UAE กล่าวว่ากำลังลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์ใน Binance ซึ่งเป็นกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตยักษ์ใหญ่โดยใช้ Stablecoin ต่อมาในเดือนพฤษภาคม มีการเปิดเผยว่า MGX ใช้ USD1 Stablecoin ที่เพิ่งเปิดตัวของ WLF ในการลงทุน

โดยรวมแล้ว ธุรกิจคริปโตของทรัมป์และครอบครัวได้กลายเป็นประเด็นโต้แย้งในหมู่สมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรคเดโมแครตหลายคน ในขณะที่พวกเขากำลังร่วมมือกับสมาชิกพรรครีพับลิกันในการผลักดันร่างกฎหมายเพื่อกำกับดูแลอุตสาหกรรมคริปโตโดยรวม

สิ่งที่น่าสังเกตคือ ปัจจุบัน SEC ไม่มีเขตอำนาจศาลโดยตรงเหนือ WLF เมื่อถูก The Block สอบถามระหว่างการแถลงข่าวหลังการประชุมว่าผลประโยชน์ทับซ้อนทั่วไปในรัฐบาลทรัมป์มีผลกระทบต่อการกำกับดูแลคริปโตของ SEC หรือไม่ แอดกินส์กล่าวว่าหน่วยงานของเขามี "หน้าที่ต้องทำ" พร้อมเสริมว่าเขาไม่สามารถพูดถึงบริษัทหรือผลิตภัณฑ์ใดเป็นพิเศษได้

แอดกินส์กล่าวว่า "เรามีบทบัญญัติ (ของกฎหมาย) ดังนั้นเราจะบังคับใช้กฎหมายเหล่านั้น และจะทำการสืบสวนในกรณีที่มีการระบุและจำเป็น"

การทำงานของแอดกินส์ในฐานะประธาน SEC

แอดกินส์ได้ใช้แนวทางที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงในการกำกับดูแลคริปโตนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานในเดือนเมษายน โดยแตกต่างจาก แกรี เกนส์เลอร์ ประธานคนก่อนหน้าอย่างมาก เกนส์เลอร์ใช้แนวทางที่ระมัดระวังต่อคริปโตและได้ยื่นฟ้องร้องบริษัทคริปโตขนาดใหญ่หลายคดี โดยระบุว่าคริปโตเคอร์เรนซีส่วนใหญ่เป็นหลักทรัพย์ ขณะที่เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์จากแนวทาง "กำกับดูแลด้วยการบังคับใช้กฎหมาย"

นับตั้งแต่เดือนเมษายน แอดกินส์ได้ดำเนินการหลายขั้นตอนเพื่อแสดงท่าทีเป็นมิตรต่อสินทรัพย์ดิจิทัล

ในเดือนมิถุนายน แอดกินส์กล่าวว่าเขา ได้สั่งการ ให้เจ้าหน้าที่พิจารณา "การยกเว้นด้านนวัตกรรม" ซึ่งเขากล่าวว่าจะช่วยให้บริษัทสามารถ "นำผลิตภัณฑ์และบริการบนบล็อกเชนออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว" และเมื่อวันอังคาร แอดกินส์กล่าวว่าเขาวางแผนที่จะนำการยกเว้นนี้มาใช้ภายในสิ้นปีนี้

แอดกินส์กล่าวในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ในฐานะส่วนหนึ่งของการยกเว้นด้านนวัตกรรม SEC กำลังพยายามสร้าง "รากฐาน" เพื่อระบุว่าอะไรคือหลักทรัพย์ "นั่นคือพื้นฐานที่เราต้องให้ เพื่อให้นักกฎหมายสามารถให้ความเห็น เพื่อที่เราจะสามารถให้แนวทางแก่ผู้คนเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขามี เพื่อให้พวกเขามีความชัดเจนและแน่นอน" แอดกินส์กล่าว

แอดกินส์ยังได้เริ่มโครงการริเริ่มที่เรียกว่า "Project Crypto" เพื่อปรับปรุงกฎระเบียบที่มีอยู่ของหน่วยงานเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลให้ทันสมัย เจ้าหน้าที่ของ SEC ได้เผยแพร่ถ้อยแถลงเกี่ยวกับ Staking หลายครั้ง รวมถึงการระบุว่าคุณสมบัติ Proof-of-Stake ส่วนใหญ่ ไม่อยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจ ของตน และต่อมาได้ ชี้แจง ว่ากิจกรรม Liquid Staking บางประเภทไม่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์

ที่มา https://www.theblock.co/post/372467/sec-crypto-conflicts-interest-trump-agency-will-enforce-laws