เปิดประวัติ “ฮุน เซน” ผู้เขย่าอาเซียน ด้วยสไตล์การทูตแบบมุทะลุ

เปิดประวัติ “ฮุน เซน” อดีตนายกฯ กัมพูชา ผู้ปกครองประเทศเกือบ 40 ปี ผู้เขย่าอาเซียน ด้วยการดำเนินการทูตแบบไม่สนใคร
หากพูดถึง “ฮุนเซน” ณ ตอนนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักเขา ชายผู้ได้รับการยกย่องว่า เป็นวีรบุรุษแห่งกัมพูชา แต่ขณะเดียวกัน ก็ถูกมองว่า เป็น “ผู้เขย่าอาเซียน” เพราะเขามีสไลต์การทูตแบบไม่สนผู้ใด จนบางครั้งก็สั่นคลอนอาเซียน
วันนี้ เรามาทำความรู้จัก “ฮุน เซน” นายกรัฐมนตรีผู้ปกครองกัมพูชาเกือบ 40 ปี
“ฮุน เซน” เด็กชายผู้เข้าร่วมกลุ่มเขมรแดง ก่อนแปรพักตร์
“ฮุน เซน” เกิดวันที่ 4 เมษายน 1951 ในจังหวัดกำปงจาม เป็นลูกคนที่ 3 จากพี่น้องทั้งหมด 6 คน ชื่อแรกเกิดของเขาคือ “ฮุน บูนัล”
เมื่อโตขึ้นก็บวชเรียนกับสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญ และเปลี่ยนชื่อเป็น “ฤทธิเซน” หรือ เรียกสั้น ๆ ว่า “เซน”
หลังออกจากวัด “ฮุน เซน” ก็ได้เข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งกัมพูชาในช่วงปลายทศวรรษ 1960 ก่อนจะเข้าร่วมกับกลุ่ม “เขมรแดง” ในปี 1970 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ พล พต ปกครองประเทศ และสังหารชาวกัมพูชาไปมากกว่า 2 ล้านคน
ต่อมาปี 1977 ฮุน เซน ตัดสินใจออกจากกลุ่มเขมรแดง และไปเข้าร่วมกับกลุ่มกองทัพเวียดนาม เพื่อช่วยต่อสู้กับเขมรแดงแทน ก่อนจะได้กลับมายังบ้านเกิดอีกครั้ง หลังเวียดนามจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในปี 1979 และเขาก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ในวัย 26 ปี ซึ่งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศที่อายุน้อยสุดของโลก ณ ขณะนั้น
ก้าวสู่ตำแหน่งนายกฯ
“ฮุน เซน” ก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศในปี 1985 หลัง “จัน ซี” นายกรัฐมนตรีคนก่อนของกัมพูชาเสียชีวิตขณะดำรงตำแหน่ง โดยได้แรงสนับสนุนจากผู้มีอำนาจของพรรคการเมือง
ช่วงเวลานั้น ฮุน เซน ต้องรับมือกับความขัดแย้งจากกลุ่มกบฏติดอาวุธหลายกลุ่ม ที่ยังคงต่อสู้กับรัฐบาล และฮุนเซนมีส่วนช่วยในการเจรจาสันติภาพปารีสในปี 1991 ซึ่งนำพาสันติสุขกลับคืนสู่กัมพูชา หลังสิ้นสุดสงครามเวียดนามหลายปี ต่อมา UN ก็ได้เข้ามาช่วยจัดการเรื่องสันติภาพ และจัดการเลือกตั้งภายในประเทศเมื่อปี 1993
แต่ปรากฎว่า การเลือกตั้งครั้งนั้น เขาต้องพ่ายแพ้ให้กับพรรคของสมเด็จกรมพระนโรดม จักรพงศ์ ผู้สืบเชื้อสายกษัตริย์กัมพูชา แต่ “ฮุน เซน” กลับไม่ยอมลงจากอำนาจ จนทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง ท้ายที่สุด ทั้งสองก็ตกลงที่จะแบ่งอำนาจปกครองประเทศร่วมกัน
เหมือนเหตุการณ์ทางการเมืองจะสงบ แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะปี 1997 “ฮุน เซน” ยึดอำนาจจากสมเด็จกรมพระนโรดม จักรพงศ์
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กัมพูชาจึงมีนายกรัฐมนตรี ชื่อว่า “ฮุน เซน” จนถึงปี 2023 ก่อนจะส่งมอบอำนาจต่อให้กับ “ฮุน มาเนต” บุตรชายของเขา
สไตล์การทูตแบบมุทะลุ
“ฮุน เซน” ได้ขึ้นชื่อว่า เป็นผู้นำที่ปกครองกัมพูชายาวนานถึง 38 ปี และยังมีสไตล์การทูตที่แหกขนบธรรมเนียมของอาเซียน เพราะเขามักเคลื่อนไหวทางการทูตแบบฉายเดี่ยว หรือ กล้าได้กล้าเสีย
สื่อต่างประเทศมักบอกว่า เขามีสไตล์ทางการทูตแบบ Cowboy diplomacy หรือ การกระทำที่ดำเนินนโยบายระหว่างประเทศแบบหุนหันพลันแล่น โดยไม่ปรึกษาผู้ใด ยกตัวอย่างเช่น
ย้อนไปเมื่อปี 2012 กัมพูชา ในฐานะประธานอาเซียน ภายใต้การนำของ “ฮุน เซน” ล้มเหลวในการออกแถลงการณ์ร่วม ที่พาดพิงถึงทะเลจีนใต้ ท่ามกลางความแคลงใจ เนื่องจากกัมพูชามีความสัมพันธ์อันแนบแน่นกับจีน ทำให้เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์อาเซียน ที่ล้มเหลวในการออกแถลงการณ์ร่วมกัน หลังจบการประชุม
ต่อมา ปี 2022 ในช่วงที่กัมพูชาเป็นประธานอาเซียน ฮุน เซน พยายามดึงรัฐบาลทหารเมียนมากลับเข้าสู่อาเซียน เดินทางพบปะผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา โดยไม่ผ่านฉันทามติกับอาเซียนก่อน ในขณะที่ประเทศสมาชิกพยายามหลีกเลี่ยงไม่ข้องเกี่ยว หลังเกิดรัฐประหารเมื่อปี 2021
การมาเยือนของเขา ทำให้รัฐบาลทหารมีความชอบธรรม และเป็นการแบ่งแยกอาเซียน ทำให้กลุ่มอาเซียนไม่สามารถพูดเป็นเสียงเดียวกันได้
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
https://www.britannica.com/biography/Hun-Sen
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Hun_Sen
https://www.aljazeera.com/news/2012/7/13/asean-talks-fail-over-south-china-sea-dispute
https://fulcrum.sg/hun-sens-cowboy-diplomacy-quick-draw-or-firing-blanks/
https://www.geopoliticalmonitor.com/hun-sen-has-sealed-cambodias-asean-chairmanship-as-a-failure/
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
