TIP Report ชี้ “กัมพูชา” เอื้อขบวนการสแกมเมอร์ ปกป้องเจ้าพ่อคอลเซ็นเตอร์ สถานการณ์ค้ามนุษย์ต่ำ Tier 3

เราคงเคยได้ยินรายงานที่ระบุว่า การสแกมออนไลน์ในกัมพูชา เป็นอุตสาหกรรมมืดยักษ์ใหญ่ที่สุด สร้างรายได้เข้าประเทศมากเทียบเท่า 60% ของจีดีพี แต่มันทับซ้อนกับมิติการค้ามนุษย์ด้วย เพราะ TIP Report ของสหรัฐฯ ชี้ว่า
รัฐบาลกัมพูชาเกื้อหนุนกิจกรรมออนไลน์สแกม เจ้าหน้าที่ระดับสูงข่มขู่เหยื่อและพยานคดีค้ามนุษย์ ที่ถูกหลอกไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ซ้ำร้าย ยังดูเหมือนจะปกป้องเครือข่ายสแกมเมอร์ที่อยู่ในประเทศ ด้วยการไม่เข้าไปจัดการกับเจ้าพ่อสแกมรายใหญ่ ซึ่งในรายงานเชื่อว่า ที่รัฐบาลกัมพูชาไม่ยอมขยับเช่นนี้ เพราะข้าราชการระดับสูงเองนั่นแหละ ที่ได้รับประโยชน์จากเครือข่ายมืดเหล่านี้
จนมิจฉาชีพเหล่านี้ รู้สึกมีบารมี ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และขยายฐานการสแกมต่อไป เพราะรู้ว่า ถ้าคอนเนคชันถึงรัฐบาลได้ ตนก็จะรอดจากการกวาดล้าง
รายงานยังชี้อีกว่า แม้จะมีภาพการกวาดล้างแก๊งสแกมเมอร์จากภาครัฐ แต่นั่นเป็นการจัดการแบบเลือกไว้แล้ว ตัวเล็ก หรือที่มีเหยื่อค้ามนุษย์ต่างชาติจะถูกจับ แต่ตัวใหญ่ ๆ ยังลอยนวล และเชื่อว่ายังมีเหยื่อค้ามนุษย์ที่ถูกลวงไปสแกมคนทั่วโลกหลายพันคน ยังติดอยู่ในเครือข่ายอาชญากรรมนี้
แล้วสถานการณ์ค้ามนุษย์ของไทยล่ะ
TIP Report ยังคงให้ไทยอยู่เทียร์ 2 หรือสถานะประเทศที่ดำเนินการยังไม่สอดคล้องกับมาตรฐานขั้นต่ำของสหรัฐฯ แต่แสดงถึงความพยายามจัดการการค้ามนุษย์
ความพยายามนั้นของไทย คือ การสอบสวนและดำเนินคดีค้ามนุษย์มากขึ้น มีการร่วมมือกับรัฐบาลนานาชาติเพื่อส่งกลับเหยื่อค้ามนุษย์ไปเป็นคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงมีกระบวนการคัดกรองเหยื่อ แยกจากมิจฉาชีพที่สวมรอยอย่างเป็นระบบ
แต่เพื่อให้ไทยก้าวสู่เทียร์ 1 สหรัฐฯ แนะนำไทยหลายข้อ รวมถึงการสอบสวนและดำเนินคดีเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง
ส่วนชาติอาเซียนที่สถานะการค้ามนุษย์เปลี่ยนแปลงไป มีเพียงชาติเดียว คือ สปป.ลาว ที่ถูกลดระดับจากเทียร์ 2 ลงไปเป็นเทียร์ 3 เท่ากัมพูชา
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
