ลักพาตัว บังคับเสพยา เมื่อชาวเกาหลีเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ในขบวนการสแกมกัมพูชามากขึ้นเรื่อยๆ

ลักพาตัว บังคับให้เสพยา และฆ่าจนเสียชีวิต นี่ต่างเป็นสแกมที่เกิดขึ้นกับชาวเกาหลีใต้ ที่ถูกหลอกไปทำงานในสแกมเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ซึ่งล่าสุดรัฐบาลเกาหลีใต้ได้ปรับระดับการแจ้งเตือนสำหรับชาวเกาหลีที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวกัมพูชาแล้วด้วย
เกิดอะไรขึ้นในกับชาวเกาหลีที่ถูกหลอกไปกัมพูชา คนเกาหลีถูกหลอกไปเป็นเหยื่อในกัมพูชาเยอะแค่ไหน ?
ในเดือนสิงหาคม 2568 สื่อเกาหลีใต้รายงานถึงการพบศพชาวเกาหลีในสแกมเซ็นเตอร์ของกัมพูชา ที่คาดว่าถูกทรมานจนเสียชีวิต ซึ่งล่าสุด สื่อ KBS ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ ที่ชายเกาหลีใต้คนหนึ่งถูกบังคับให้เสพยาบางอย่าง และก็ปรากฎว่าชายในคลิปนั้น คือนายปาร์คที่ถูกพบศพในกัมพูชาก่อนหน้านี้
วิดีโอนั้น ได้แสดงภาพชายวัย 20 ปี ที่ถูกสมาชิกองค์กรอาชญากรรมชาวจีนบังคับให้ใช้ยาเสพติด ซึ่งชายคนนั้นที่มีท่าทีหวาดกลัว แต่ได้หายใจเอาควันสีขาวจากภาชนะคล้ายขวดเข้าออกซ้ำๆ โดยสื่อรายงานว่า ภาชนะที่เขาถือคือ ‘ฟรีเบส’ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สูบฟิโลพอน หรือยาบ้า
ในวิดีโอนั้น ยังมีเสียงสั่งการเป็นภาษาเกาหลีว่า “ให้ดูดให้เร็วขึ้น” และ “ดูดมันเข้าไปก่อนฉันจะฆ่าคุณ” ด้วย
สำนักข่าวเกาหลีใต้รายงานว่า ชายคนนี้ได้เดินทางไปกัมพูชาในเดือนกรกฎาคม หลังจากได้รับการแนะนําจากนายหน้าในประเทศที่อ้างว่า สามารถขายบัญชีธนาคารในราคาสูงในท้องถิ่นได้ และต่อมาเขาได้ถูกลักพาตัว คุมขัง และคาดว่าบังคับให้ใช้ยาเพื่อให้หลบหนีได้ง่ายขึ้นด้วย
อาชญากรรมและการค้ามนุษย์ ในขบวนการสแกมของกัมพูชารุนแรงขึ้น และชาวเกาหลีใต้เองก็ตกเป็นเหยื่อมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ตำรวจกัมพูชาก็ได้จับกุมชาวจีน 4 คน และชาวกัมพูชา 1 คน ที่ลักพาตัว และทรมานชาวเกาหลีวัย 50 ปี ในพนมเปญ ทั้งจากตัวเลขยังเห็นชัดได้ว่า คดีลักพาตัวและกักขังที่มุ่งเป้าเหยื่อชาวเกาหลีใต้ในกัมพูชาเพิ่มขึ้นจาก 17 คดีในปี 2023 เป็น 330 คดีในเดือนสิงหาคมปี 2025
โดยตอนนี้ หลายพื้นที่ของกัมพูชาถือเป็นพื้นที่อันตราย ที่รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ปรับระดับการแจ้งเตือนการเดินทาง เช่น พนมเปญอยู่ระดับ 2 หรือระดับควรระวัง ในขณะที่สีหนุวิลล์ ยอดเขาโบกอร์ และบาเวตอยู่ระดับ 2.5 ภายใต้คําแนะนําการเดินทางพิเศษ
ซึ่งกระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ยังแนะนำให้ประชาชนที่จะเดินทาง หรือไปเที่ยวพื้นที่เหล่านี้ยกเลิก หรือเลื่อนการเดินทาง และให้คนเกาหลีที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นย้ายไปที่อื่นที่ปลอดภัยกว่าด้วย
ไม่ใช่แค่ชาวจีน หรือกัมพูชา แต่ชาวเกาหลีก็หลอกกันเอง
แม้ว่าจะเห็นชัดเจนว่าชาวจีน และชาวกัมพูชามีส่วนในการลักพาตัว และกักขังชาวเกาหลีใต้ในกัมพูชา แต่การจับกุม และสอบสวนคดีต่างๆ ก็พบว่าชาวเกาหลีใต้เองก็มีส่วนไม่มากก็น้อยในการหลอกลวงเพื่อนร่วมชาติ และเป็นลูกน้องของชาวจีนอีกต่อ
ซึ่งล่าสุด กองสืบสวนอาชญากรรมรุนแรงของสํานักงานอัยการเขตแทกู ได้ฟ้องร้องชาวเกาหลีใต้หกคน ในข้อหาเข้าร่วมและมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมในกัมพูชา
ชาวเกาหลีใต้ 6 คนนี้ ทํางานเป็นที่ปรึกษาให้คอลเซ็นเตอร์ในสีหนุวิลล์ กัมพูชา และถูกกล่าวหาว่ากระทํา การหลอกลวงโรแมนติก โดยมุ่งเป้าไปที่ชายเกาหลีใต้ ซึ่งพบว่ามีชายเกาหลีใต้ 2 คน ที่สูญเงินไปถึง 92 ล้านวอน (2.4 ล้านบาท) และ 190 ล้านวอน (5.13 ล้านบาท)
โดยพวกเขาจะปลอมเป็นผู้หญิง เข้าหาเหยื่อทางโซเชียล หลอกให้รัก จากนั้นจึงชักจูงให้เหยื่อลงทุนในหุ้นและสกุลเงินดิจิทัลเพื่อยักยอกเงิน ภายหลังตำรวจพบว่าเมื่อก่ออาชญากรรมสําเร็จ พวกเขาได้รับเงินจูงใจประมาณ 3-10% ของจํานวนเงินที่หลอกได้
ก่อนหน้านี้ตํารวจกัมพูชาประเมินว่าชาวเกาหลีประมาณ 2,000 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งเหล่านี้ด้วย และจากการลงพื้นที่สำรวจของ และสัมภาษณ์อดีตสมาชิกขององค์กรสแกมเมอร์ในเมืองปอยเปตชายแดนกัมพูชา
ของสำนักข่าว Chosun Ilbo ก็พบว่า ระบบการทำงานของสแกมเมอร์ในกัมพูชานั้น ‘เหมือนบริษัทใหญ่’ ผู้บริหาร ที่เทียบเท่ากับซีอีโอ คือพวกอันธพาลชาวจีน คนงานระดับล่างคือชาวเกาหลีใต้ คนไทย และชาวเวียดนาม พวกเขาให้เช่าทั้งชั้นของอาคารและใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการ”
และสำหรับการหลอกคนเกาหลีนั้น ผู้นําคนจีนเตรียมสคริปต์หลอกลวงโดยละเอียดซึ่งแปลเป็นภาษาเกาหลี การดําเนินการยังรวมถึงการไลฟ์สดภาษาเกาหลี และการสื่อสารคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งแปลเป็นภาษาท้องถิ่นอย่างพิถีพิถันเพื่อกําหนดเป้าหมายเหยื่อชาวเกาหลีใต้โดยเฉพาะ
อ่านเพิ่มเติม จากศพชาวเกาหลีในกัมพูชา ทำไมคนเกาหลีเป็นทั้งเหยื่อ และผู้ปฏิบัติการในสแกมข้ามชาติ ?
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
