คลังชี้ส่งออกทองกัมพูชาไม่เกี่ยวบาทแข็ง

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยแนวทางที่มีการเสนอให้เก็บภาษีทองคำเพื่อลดการเก็งกำไร และทำให้ค่าเงินบาทสูงขึ้นว่า จากข้อมูลการส่งออกทองคำไปกัมพูชา ตลอด 8 เดือนปีนี้ มีมูลค่าเพียง 60,000-70,000 ล้านบาท และเมื่อแปลงเป็นดอลลาร์แล้วตกเพียง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับเงินทุนไหลเข้า ซึ่งไม่น่าใช่สาเหตุหลักที่ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่า
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า สาเหตุที่ค่าบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ส่วนใหญ่มาจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่มาจากการส่งออก
อีกทั้งมีเงินทุนไหลเข้าตลาดพันธบัตรจำนวนมาก ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่สูงก็จูงใจให้มีการเคลื่อนย้ายเข้ามาในประเทศ อย่างไรก็ตามขณะนี้ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าลงแล้ว หลังจากที่ผ่านมามีการแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทย เข้าไปดูแลค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวน พร้อมกับได้ตั้งคณะทำงานในการตรวจสอบเงินทุนไหลเข้าที่มาจากธุรกรรมที่วัดไม่ได้ หรือเป็นเงินนอกระบบหรือเงินสีเทาที่อาจมีผลทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่า
โดยคณะทำงานประกอบด้วย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
นายเอกนิติ กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจ ช่วงไตรมาส 4 เดิมคาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 0.3 ซึ่งถือเป็นภาวะติดหล่ม แต่รัฐบาลพยายามออกมาตรการช่วยกระตุ้นจีดีพีไตรมาสสี่ให้ขยายตัวได้เกินร้อยละ 1
ประกอบด้วย โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่จะดำเนินการผ่านโครงการคนละครึ่งพลัส และการเติมเงินเข้าบัตรคนจนวงเงินรวม 66,500 ล้านบาท มาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวในเมืองรอง โดยให้นำรายจ่ายจากการท่องเที่ยวมาหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า คาดว่า จะเสนอเข้าครม.ได้ในวันที่ 14 ต.ค.นี้
นอกจากนี้ ยังจะเสนอให้ผู้ประกอบการโรงแรมและที่พักต่าง ๆ นำรายจ่ายจากการซ่อมแซมมาหักลดหย่อนได้ 2 เท่า เพื่อช่วยยกระดับที่พักเพื่อการท่องเที่ยว
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
